@. อ่านละครทีวี.@

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 7-8 วันที่ 12 ส.ค. 55

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 7

ต๋องปัดป้องพลางก็บอกว่าตนไม่รู้เรื่อง สดศรีไม่เชื่อ ครู่เดียวกิมฮวย จะเด็ด และเต็กไฮ้ก็มาผสมโรงด่าต๋อง ยุคุณนายให้ไล่ต๋องออกจากตลาดไปเลย คิตตี้กับชมพู่ช่วยต๋องชี้แจง แต่ไม่มีใครฟัง ถูกพวกสดศรีด่ากลบเสียงหมด
ทันใดนั้นเสียงเตือนแมสเสจจากมือถือของ

สดศรีดังขึ้น สดศรีหยิบขึ้นมาดู พอเห็นเป็นเบอร์ของณดาก็ดีใจ รีบกดอ่านท่ามกลางสายตาของชาวตลาดที่มองอย่างอยากรู้อยากเห็น

“ขอโทษที่หายตัวมาโดยไม่บอกคุณแม่นะคะ ณดาอยากจะปลีกตัวมาคิดเรื่องระหว่างต๋องกับตัวเองให้ดีๆน่ะค่ะ เพราะณดาก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วเหมือนกันบางทีอาจจะไม่เหมาะสมกันอย่างที่คุณแม่ว่าก็ได้ คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ พร้อมเมื่อไหร่ณดาจะติดต่อกลับไปหาคุณแม่เอง”

พอรู้ว่าณดาส่งแมสเสจมา ทั้งคิตตี้และชมพู่ที่โต้เถียงแก้ต่างให้ต๋องเมื่อครู่ก็ได้ที คิตตี้มองหน้าคุณนายและทุกคนพูดเสียงดังใส่ว่า “บอกแล้วว่าต๋องไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้”

ส่วนชมพู่แสบกว่า มองกราดไปที่คู่อริทั้งหลายของต๋อง ยกมือประนมท่วมหัว “เป็นไง...เมื่อกี้ใครที่ด่าพี่ต๋องเอาไว้ขอให้เข้าตัว...เพี้ยง...” ชมพู่มองกราดไปสุดที่คุณนายสดศรี ทำเอาคุณนายทำหน้าไม่ถูกรีบถอยออกไปจากตลาด

พอขึ้นรถ สดศรีก็โทร.กลับไปหาณดา แต่ไม่มีคนรับสาย ทำให้ยิ่งหงุดหงิดที่ณดาไม่รับสายตน แล้วก็ระดมโทร.อีก จนศักดิ์ชายหมั่นไส้คว้าโทรศัพท์ของณดาปาทิ้งทะเลไป ทั้งยังขู่ณดาว่าถ้ายังแผลงฤทธิ์อีกจะจับโยนทะเลไปเหมือนโยนโทรศัพท์ ทำให้ณดาไม่กล้าโวยวาย

ooooooo

ฝ่ายต๋อง รู้ข่าวณดาแล้วแทนที่จะโล่งใจ เขากลับเครียด เมื่อเลื่อนกับรักเร่ถาม เขาพูดอย่างกังวลว่า

“ข้ากำลังแปลกใจน่ะ คุณณดาตัวจริงไม่น่าจะเลือกหนีอะไรไปง่ายๆแบบนี้”

ขณะต๋องไปนั่งกินโอเลี้ยงที่ร้านอาโก เห็นกิมลั้งกำลังจะมาที่ร้านพอดี แต่พอเห็นต๋องนั่งอยู่ก็หันเดินหนีไปทางอื่น ต๋องรีบลุกตามไปคว้ามือไว้ ถามว่าตกลงจะไม่ยอมพูดกับตนแล้วจริงๆหรือ

กิมลั้งสะบัดอย่างแรงบอกว่าเราไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ต๋องบอกว่าเธอกำลังเข้าใจผิด ตนกับณดาไม่ได้มีอะไรกัน กลับถูกกิมลั้งพูดเยาะว่า

“น่าเสียใจแทนคุณณดาจริงๆนะที่เธอมาพูดลับหลังเขาแบบนี้” ต๋องยืนยันว่าตนพูดความจริง กิมลั้งพูดใส่หน้าว่า “ตอนที่ไม่มีคุณณดาอยู่ เธอจะพูดอะไรก็ได้ทั้งนั้น รู้ไหมต๋อง...ถ้าเธอบอกฉันแต่แรกว่าเธอเปลี่ยนไปเพราะอะไร ฉันคงไม่เจ็บปวดเท่ากับการที่ไปได้ยินเรื่องทั้งหมดจากปากคนอื่น มันตอกย้ำให้รู้สึกว่า ที่ผ่านมา ฉันไม่ได้มีค่า มีความหมายกับเธอเลยจริงๆ” พูดได้แค่นั้นกิมลั้งก็น้ำตาไหลพรากจนพูดไม่ออก

ต๋องขอร้องให้เธอฟังเขาบ้าง กิมลั้งบอกว่า ตอนนี้ตนไม่ไว้ใจเขาอีกแล้ว พูดแล้วเดินหนีไปเลย

ooooooo

ศักดิ์ชายพาณดาไปที่บ้านหลังเล็กน่ารักที่จัดเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว บนเกาะที่เขาบอกว่าเป็นของเพื่อน เมื่อมาถึงเขาแก้เชือกที่มัดมือมัดเท้าเธอออก ณดาตบหน้าเขาทันที

“นี่สำหรับความเลวที่ทำกับฉัน”

“ช่วยไม่ได้ คุณต่างหากที่บังคับให้ผมต้องทำแบบนี้เอง ใครมันจะยอมให้เมียตัวเองไปเป็นเมียคนอื่น แถมยังจะแต่งงานกันออกหน้าออกตาอีก”

ณดาเอะใจถามว่าใครบอกเรื่องนี้กับเขา ศักดิ์ชายไม่ตอบเพราะตัวเองแอบฟังมา ถูกณดาคว้าข้าวของใกล้มือปาใส่ไม่ยั้ง เขาหลบพลางบอกว่าอยากปาก็ปาไป ปาเสร็จก็เก็บเข้าที่ด้วยแล้วกัน ขู่ว่าอย่าได้คิดหนีเด็ดขาด เพราะคนบนเกาะนี้ไม่เจอผู้หญิงมานานแล้ว ถ้าเธอหนีออกไปไม่เหลือแน่! พูดแล้วออกไปจากห้อง

ศักดิ์ชายออกไปสั่งคนงานให้ดูแลณดาให้ดี และห้ามเรียกตนว่าคุณ ห้ามพูดครับ คนงานเลยพูดด้วยแบบมึงวาพาโวย ทำเอาศักดิ์ชายสะอึกไปเหมือนกัน

ชายศักดิ์และรัศมีต่างตกใจเมื่อรู้ว่าศักดิ์ชายทำอะไรลงไป ถามว่าที่ทำไปเพราะหึงณดาหรือว่าหวงก้างกันแน่ เขาทำเสียงจริงจังกับพ่อและแม่ว่า “ผมต้องทำเพื่อห้างสิครับ ไม่งั้นจะเอาตัวเข้าเสี่ยงขนาดนี้เหรอ”

“แน่ใจนะว่าแกเอาอยู่” เสียงชายศักดิ์ถาม ศักดิ์–ชายรีบบอกว่าตนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ผู้เป็นพ่อเลยแซวว่าท่าทางจะหมกมุ่น ย้ำว่า “พ่อหมายถึงว่าอยู่ๆก็ฉุดลูกสาวเขาไป ไม่กลัวว่าเขาจะสาวมาถึงตัวแกเหรอ”

“ไม่ต้องห่วงครับคุณพ่อ ผมเอาอยู่อยู่แล้ว”

รัศมีถามอย่างกังวลว่า เมื่อเขาไม่อยู่แล้วเรื่องทวงหนี้ ข่มขวัญพวกคนในตลาดจะจัดการอย่างไรต่อไป ศักดิ์ชายบอกว่าให้ทำตามแผนที่ตนวางไว้ให้ก็จบ บอกแม่ว่า

“ดีเสียอีกที่เราเล่นงานคุณนายสดศรีสองทางเลย เล่นมันทั้งลูกสาวทั้งคนในตลาด คราวนี้ไม่พลาดแน่ครับ”

รัศมีบอกอย่างเบาใจว่า เอาไว้มีอะไรคืบหน้าค่อยว่ากันอีกทีแล้ววางสาย ชายศักดิ์ชมลูกชายว่า

“เอ้อ...ลูกชายเรานี่มันฉลาดนะ ให้พ่อแม่ไล่จับลูกหนี้ แต่มันเลือกไปไล่จับผู้หญิง”

ว่าแล้วสองผัวเมียก็ทำตาปริบๆมองกันกุ๊กกิ๊กแล้วหันมาวิ่งไล่จับกันเองราวกับหนุ่มสาวในหนังแขก...

ooooooo

วันนี้ ชาวตลาดร่วมใจเกื้อพากันแปลกใจ เมื่อมีชายหนุ่มผมยาวสักเต็มแขนเดินมาดแมนผ่ากลางตลาด ทุกคนสงสัยว่าเขาเป็นใคร แต่พอเขาหันมาชาวตลาดก็พากันร้องอ๋อ...แล้วอึ้ง เพราะที่แท้คือคิตตี้นั่นเอง

“อะไรดลใจให้ลื้อแต่งตัวอย่างนี้หา อาคิตตี้” กิมฮวยสงสัย คิตตี้ทำเสียงห้าวบอกว่าตนชื่อสมคิด กิมฮวยยิ่งงงถามว่า “ผีเข้ารึเปล่า ตั้งแต่ลื้อประกาศว่าชื่อคิตตี้ ลื้อก็ไม่ให้ใครเรียกว่าสมคิดอีกเลย แล้วอยู่ๆลื้อเป็นอะไร”

“ผมเป็นผู้ชาย”

“ผู้ชาย!” ชาวตลาดอุทานพร้อมกัน ป้าพิณพึมพำว่า สงสัยต้องพาไปให้จะเด็ดสาดน้ำมนต์เรียกวิญญาณคืนร่างเสียแล้ว พูดแล้วชวนพรรคพวกช่วยกันลากคิตตี้ไป ท่ามกลางเสียงห้าวๆของคิตตี้ที่ร้องบอกว่าตนไม่เป็นอะไร ปล่อยตนเถิด แต่ชาวตลาดไม่ฟังเสียงช่วยกันลากถูลู่ถูกัง คิตตี้ก็แต๋วแตกแผดเสียงแหลมแตกพร่า

“อ๊ายยยยยยย” พอชาวตลาดตกใจปล่อยมือ คิตตี้ก็เก๊กแมนต่อ “ขอโทษครับ ผมแค่อยากจะบอกว่าผมไม่เป็นอะไรจริงๆ”

คำยืนยันของคิตตี้ไม่มีใครเชื่อ โดยเฉพาะกิมฮวยประกาศว่า

“ไม่จริง...มันต้องมี แล้วอั๊วต้องรู้ให้ได้” ว่าแล้วยื่นกระจกบานหนึ่งให้คิตตี้ดูตัวเอง “ดูให้ดีซิว่านี่มันลื้อจริงๆเหรอ”

เต็กไฮ้เข้าไปมองสำรวจแต่หัวจดเท้าแล้วฟันธงว่าแบบนี้มันไม่ใช่ตัวตนลื้อแน่ๆ ลักษณ์ก็ถามว่า

“ดูดีๆซิ เวลาคิตตี้ไม่แต่งหน้าทำผม คิตตี้รับตัวเองได้ไหม ถามน้า...น้ารับไม่ได้นะ”

“ฉันก็รับไม่ได้” เลื่อนแทรกขึ้น แล้วชาวตลาดก็ประสานกันเสียงขรมว่า

“ฉันก็รับไม่ได้ ฉันก็รับไม่ได้...รับไม่ได้”

“อ๊ายยยย...ก็ได้...ๆ ฉันบอกก็ได้ว่าทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้” คิตตี้ทนแรงกดดันไม่ไหวต้องสารภาพความจริงว่า

พ่อตนที่หายตัวไปห้าปีจะมาเยี่ยม ที่ตนเครียดเพราะพ่อไม่เคยรู้เรื่องที่ตนเป็นหญิงข้ามเพศ ที่สำคัญพ่อเกลียดเพศที่สามมาก ชอบประณามเพศที่สี่ เจอพวกข้ามสายพันธุ์ที่ไหนพ่อตามด่าแหลก

กิมฮวยร้องไอ้หยา...ส่วนลักษณ์ติงว่า คิตตี้ก็โตแล้วพ่อก็น่าจะยอมรับความจริงได้ เพราะทุกวันนี้คิตตี้เป็นคนดี ขยันทำมาหากิน

“ไม่มีทาง น้าลักษณ์รู้ไหม ตอนเด็กๆที่คิตตี้ยังไม่รู้ประสีประสาน่ะ แค่คิตตี้หยิบลิปสติกที่แม่ทำตกไว้มาทา ยังถูกพ่อตีอย่างกับไปฆ่าใครมา”

เต็กไฮ้ถามว่าคิดว่าจะปิดพ่อได้หรือ เพราะแค่ห้ามนิ้วไม่ให้นิ้วกระดกยังทำไม่ได้เลย

“เอาเถอะน่า ไม่มีทางเลือกแล้วนี่ ก็ต้องทนเล่นละครไป แต่ที่สำคัญก็คือ ทุกคนต้องช่วยคิตตี้ อย่าไปเผลอพูดอะไรให้พ่อคิตตี้สงสัยก็แล้วกัน”

ระหว่างกำลังนั่งคุยกันสบายๆ แบบคิตตี้กับเพื่อนชาวตลาดนั่นเอง จู่ๆพ่อก็โผล่มาร้องเรียกอย่างดีใจ

“ไอ้สมคิด”

คิตตี้สะดุ้งโหยง รีบปรับเสียงให้เป็นแมน ร้องทัก “อ้าว...พ่อ...”

ooooooo

คิตตี้พาพ่อไปที่ร้านท่ามกลางสายตาชาวตลาดที่มองกันอึ้ง พอไปถึงร้าน พ่อเห็นเป็นร้านขายดอกไม้ก็โวยวายว่าผู้ชายที่ไหนเขาขายดอกไม้เห็นมีก็แต่พวกตุ๊ดพวกแต๋วเท่านั้นที่ขาย

“โธ่...พ่อนี่ไม่รู้อะไร ร้านดอกไม้นี่แหละคนซื้อเยอะ แถมยังใช้กันทุกเทศกาล ตั้งแต่วันเกิดยันวันตาย ยิ่งมีคนขายหล่อๆอย่างฉัน สาวๆยิ่งพากันเข้าร้านตรึมเลย”

ขณะนั้นเอง ชมพู่เดินผ่านร้านเห็นคิตตี้ในมาดแมนก็ร้องเสียงดัง “อีคิตตตตต” คิตตี้ตกใจจะร้องห้ามก็กลัวพ่อได้ยิน เลยพรวดเข้าไปจูบปากแน่น ชมพู่ดิ้นหลุดมาได้จะด่าอีก ก็ถูกคิตตี้จ้องจิกพูดลอดไรฟันว่า

“อีชมพู่ ฟังฉันก่อน แกเห็นผู้ชายผมยาวที่ยืนอยู่ไหม นั่นน่ะพ่อฉัน แล้วฉันจะให้พ่อรู้ไม่ได้ว่าฉันเป็นเก้ง ไม่งั้นพ่อฆ่าฉันตายแน่ โอเคนะ...ขอบใจ”

พ่อที่ยืนอยู่หันมองถามว่านี่มันอะไรกัน คิตตี้ทำท่าแมนโอบไหล่ชมพู่แนะนำว่า “นี่เมียฉันเอง เอ้าไหว้พ่อผัว เอ๊ย...พ่อพี่ซะสิ”

ชมพู่ไหว้พ่อไปตามน้ำ พ่อตำหนิคิตตี้ว่าทำไมถึงลงมือลงไม้กับเมียแรงขนาดนั้น แล้วบ่นว่าชักจะหิวแล้ว

“งั้นต้องร้านนี้เลยพ่อ” คิตตี้พาพ่อออกไปทันที

ooooooo

ร้านที่คิตตี้พาพ่อไปอย่างมั่นใจมาก คือร้านข้าวแกงของป้าพิณนั่นเอง ป้าพินตักอาหารให้ตามสั่งแล้วยังมีน้ำใจบอกพ่อของคิตตี้ว่ากับข้าวไม่พอให้บอก แต่พ่อคิตตี้ไม่ทันบอก ป้าพิณก็ตักไปแถมให้แล้ว

ส่วนคำมูลอาสาเปิดเพลงเพราะๆให้ฟัง บอกว่าถึงไม่สั่งส้มตำก็ไม่เป็นไร จนพ่อของคิตตี้พูดอย่างชื่นชมว่า

“คนในตลาดนี่ดูรักใคร่เอ็งดีจังเลยนะ” แต่พอหันมองไปรอบๆ ก็กลายเป็นตกใจ เมื่อเห็นชาวตลาดพากันมาดูพ่อคิตตี้ บ้างทำทีมานั่งกินข้าวแกง บ้างก็ตั้งหน้า ตั้งตามามุงดูจริงจัง

คิตตี้บอกพ่อว่าคนตลาดนี้ก็แบบนี้แหละ เพราะรักตนเลยรักพ่อด้วย แล้วเร่งพ่อให้รีบกินเสียอาหารกำลังร้อนๆ คุยอวดพ่อว่า “พ่อรู้ไหม ร้านป้าพิณน่ะ อร่อยที่สุดในสามมมม...โลกเลย”

“ทำไมต้องพูดแบบนั้นวะ กะเทยมาก ข้าไม่ชอบ” พ่อทำหน้าตึง ชมพู่รีบช่วยแก้ว่าเพราะคิตตี้อยากให้รู้ว่าอร่อยมาก คิตตี้รีบตักกับข้าวให้พ่อกลบเกลื่อน พอพ่อกินก็ชมว่า อร่อยอย่างที่ว่าจริงๆด้วย

บรรยากาศกำลังดีขึ้น เสียงเพลงจากร้านส้มตำของคำมูลก็กระแทกเข้ามา ชมพู่มองขวับบ่นว่าทำไมต้องเปิดเพลงชาวเกย์กันตอนนี้ เดี๋ยวคิตตี้ได้แต๋วแตกหรอก แล้วร้องบอกคำมูลว่า

“พี่คำมูล...ปิดเพลงก็ได้นะ เสียงมันดัง”

คำมูลหูเฝื่อนไพล่ได้ยินเป็นว่าเพลงไม่ดัง เลยตอบสนองอารมณ์เร่งเพลงให้ดังขึ้นอีก ชมพู่ตะโกนบอกว่า

“พี่คำมูล...ฉันบอกให้ปิด ไม่ได้ให้เร่งเสียง”

“ไม่เป็นไรชมพู่ ฟังเถอะ...เพราะดี พ่อจะได้ฝึกภาษาไปด้วย” แล้วพ่อก็หันบอกคิตตี้ว่า “ที่พ่อบอกเอ็งไว้ว่าจะไปทำงานเมืองนอก ช่วงนี้เลยต้องขยันฝึกภาษาฝรั่งหน่อย จะได้ไม่ลำบาก”

เสียงเพลงกระตุ้นต่อมจนคิตตี้ทนไม่ไหวลุกขึ้นเต้นสะบัดช่อ จนชมพู่ต้องลุกขึ้นไปเต้นด้วย แต่พยายามเอาตัวบังๆคิตตี้ไว้ให้พ้นสายตาพ่อ แก้ต่างให้เพื่อนว่า

“นี่เป็นเพลงโปรดของชมพู่น่ะค่ะ ได้ยินเพลงนี้เมื่อไหร่พี่คิตเขาเป็นต้องลุกขึ้นเต้นโชว์ชมพู่ทุกครั้ง”

พ่อฟังแล้วพยักหน้านิ่งๆ ชมพู่จึงหันเตือนคิตตี้ว่า

“มันจะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆแล้วนะอีคิตตี้ เก็บอาการหน่อย แล้วก็เก็บก้นกระเด้งๆของแกเดี๋ยวนี้ด้วย”

“ฉันทนไม่ไหวแล้วชมพู่ ฉันทนไม่ได้จริงๆ ทั้งจังหวะ ทั้งทำนอง เนื้อร้อง มันกำลังปลุกวิญญาณแท้จริงของฉันขึ้นมา เข้าใจไหม” ว่าแล้วคิตตี้ก็เต้นเป็นบ้าเป็นหลัง

จนชมพู่ต้องพลอยบ้าไปด้วยเพื่อเอาตัวบังสายตาพ่อไว้

เต้นได้อึดใจเดียว ชมพู่ก็บอกพ่อว่า “เราสองคนขอตัวเข้าห้องน้ำแป๊บนะคะ”

ooooooo

พ่อคิตตี้รออยู่นานจนผิดสังเกต ลุกเดินไปหาห้องน้ำ เจอกิมฮวยที่แผงพอดี ถามว่าห้องน้ำอยู่ทาง ไหนหรือ ตนจะไปตามลูกชาย หายไปกับเมียนาน สองนานแล้ว

กิมฮวยหันชี้ไปทางห้องน้ำ เห็นคิตตี้เดินมากับชมพู่พอดี พ่อคิตตี้จึงเดินไปหาลูก เป็นจังหวะที่กิมฮวยโยนปลาไหลไปที่ถาด แต่โยนพลาดเลยกระเด็นใส่พ่อคิตตี้ เท่านั้นเองพ่อคิตตี้ที่ทำแมนมาตลอดก็แต๋วแตกทันที เต้นหย็องแหย็งแผดเสียง

“อ๊ายยยยย...คุณพระช่วยกล้วยน้ำว้า อนาคอนด้าบุก ใครก็ได้ช่วยริชชี่ที หยะแหยงง่ะ...”

พอรู้ตัวว่าปล่อยอะไรออกไป พ่อคิตตี้ก็มองไปรอบตัว เห็นชาวตลาดพากันมองตะลึง ส่วนชมพู่ถึงกับปล่อยทิชชูหลุดมือ อุทาน

“โอ้โห...ตัวแม่...เอ๊ยตัวพ่อ...”

ooooooo

เมื่อความลับแตกโพละกลางตลาดเช่นนี้ พ่อคิตตี้จึงเปิดใจคุยกับลูกที่ริมคลองหลังตลาดว่า

“ที่จู่ๆ พ่อหายไปห้าปีเพราะพ่อทนไม่ไหวแล้วที่จะต้องโกหกญาติพี่น้อง คนรู้จัก โกหกลูก โดยเฉพาะโกหกตัวเอง”

“คิตตี้ไม่อยากเชื่อเลยนะ มันเป็นไปได้ยังไงที่คนที่เกลียดกะเทยเข้าไส้อย่างพ่อถึงกลับมาเป็นเสียเอง”

“ความจริงมันเป็นเพราะพ่อเกลียดตัวเองมากกว่าว่าทำไมถึงได้ฝักใฝ่อยากเป็นแบบนั้น แล้วก็อิจฉาพวกนั้นที่กล้าเป็นในสิ่งที่เขาเป็นอยู่”

“แล้วพ่อก็ทำทุกอย่างไม่ว่าจะขู่ ด่าว่า ตีคิตตี้เพื่อกันไม่ให้เป็นอย่างพ่อ”

“มันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกที่เราจะเลือกเป็นในสิ่งที่คนอื่นเขาเห็นว่าผิด พ่อไม่อยากให้เอ็งเติบโตมาเป็นคนที่สังคมไม่ยอมรับ ไม่ให้โอกาส เพราะฉะนั้น วิธีเดียวที่จะช่วยเอ็งได้ก็คือเลี้ยงดูเอ็งให้เป็นคนที่สังคมมองว่าปกติ เพราะเอ็งจะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานใจอย่างที่พ่อเป็นมาทั้งชีวิต”

“แต่สุดท้ายพ่อก็กล้าหาญที่จะเลือกเป็นในสิ่งที่พ่อกลัวมาตลอดชีวิต” คิตตี้เอ่ยอย่างชื่นชม

“ก็เพราะพ่อรู้แล้วยังไง ว่าคุณค่าของคนมันไม่ได้อยู่ที่เป็นเพศไหน แต่มันอยู่ที่ว่าเราเป็นใคร ทำตัวมีคุณค่าไหม ที่สำคัญ...ถ้าเรายอมรับสิ่งที่เราเป็นไม่ได้ เราก็ไม่ต่างอะไรจากคนที่ตายไปแล้ว ที่พ่อมาหาเอ็งวันนี้ นอกจากจะมาลาเอ็งกลับไปทำงานเมืองนอกแล้ว ลึกๆก็อยากเห็นว่าเอ็งไม่ได้เป็นในสิ่งที่พ่อกลัว...แต่ดูๆแล้ว พ่อว่าเอ็งมีความสุขกับสิ่งที่เอ็งเป็นมากกว่าพ่อด้วยซ้ำ”

“มันไม่ยากหรอกพ่อ แค่พ่อปล่อยวางทุกอย่างในชีวิตที่พ่อคิดว่ามันควรจะเป็น แล้วหาความสุขจากสิ่งที่พ่อเป็นจริงๆแค่นี้ก็พอแล้ว” พูดพลางคิตตี้แกะหนวดออกจากริมฝีปากพ่อที่ออกสีชมพูจิ้มลิ้ม พ่อลูกโผเข้ากอดอย่างเข้าใจกัน คิตตี้บอกพ่อว่า “ถึงพ่อจะเป็นอะไร คิตตี้ก็รักพ่อนะ”

“พ่อก็รักคิตตี้...”

เสียงปรบมือดังขึ้น พ่อลูกหันมองเห็นชาวตลาดที่มาแอบดูอยู่ต่างโผล่มาแสดงความยินดีและให้กำลังใจพ่อลูก ครู่เดียวคำมูลก็แบกวิทยุแหวกชาวตลาดออกมาเปิดเพลงดังลั่น ร้องบอกทุกคนอย่างร่าเริงว่า

“เอ้า...มาฉลองอิสรภาพให้กับพ่อลูกคู่นี้หน่อยเร้ววววว...”

ชาวตลาดออกไปเต้นกันอย่างเมามัน คิตตี้กับพ่อออกไปเต้นกันสะบัดช่อ ออกลีลาแต๋วกันไม่อั้น จนเต็กไฮ้พึมพำ

“เชื้อไม่ทิ้งแต๋วจริงๆ”

ooooooo

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 8

เย็นแล้วบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดต่างเริ่มเก็บแผงกัน วันนี้กิมลั้งมาขายปลาคนเดียวเพราะเคี้ยงกับกิมฮวยไปไหว้เจ้า

ขณะกิมลั้งง่วนกับการเก็บของนั่นเอง จาตุรงค์ก็เข้ามาช่วย กิมลั้งถามว่าแม่ไม่มาหรือ จาตุรงค์ตอบอย่างสนิทชิดเชื้อว่า

“พอน้ากิมฮวยกับป๊าไหว้เจ้าเสร็จ พี่ก็พาไปส่งที่บ้านเลย น้ากิมฮวยก็เลยวานให้พี่มาช่วยน้องกิมลั้งเก็บแผงนี่ล่ะจ้ะ”

กิมลั้งอึดอัดใจบอกเขาว่าไม่เป็นไรตนก็เก็บเองได้ แต่พอเหลือบเห็นต๋องกำลังเดินมา เธอก็เปลี่ยนใจเป็นเต็มใจให้จาตุรงค์ช่วย ซ้ำยังแสดงความสนิทสนมให้บาดตาต๋องด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อจาตุรงค์เห็นกิมลั้งท่าทีดีด้วยก็ชวนไปหาอะไรกินกันที่ร้านอาหารเปิด ใหม่ที่ปากซอย เห็นเขาบอกว่าทั้งถูกและอร่อยด้วย กิมลั้งต้องการประชดต๋อง ตอบตกลงทันที จาตุรงค์ดีใจมากรีบช่วยเก็บของจะได้ไปกันไวๆ

ขณะจาตุรงค์สาละวนกับการเก็บของ กิมลั้งก็พยายามจ้องหน้าต๋องเหมือนจงใจจะเย้ย ต๋องได้แต่มองอย่างตัดพ้อ

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 7-8 วันที่ 12 ส.ค. 55

ละคร รักเกิดในตลาดสด บทประพันธ์โดย : นราวดี
ละคร รักเกิดในตลาดสด บทโทรทัศน์โดย : สนุกคิด-สนิทเขียน
ละคร รักเกิดในตลาดสด กำกับการแสดงโดย : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละคร รักเกิดในตลาดสด แนวละคร : โรแมนติก คอมเมดี้ เบาสมองตลกสนุกสนาน
ละคร รักเกิดในตลาดสด ผลิต : บริษัท แอ็คอาร์ต เจเนอเรชั่น จำกัด โดยผู้จัด ธัญญา วชิรบรรจง
ละคร รักเกิดในตลาดสด ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-เสาร์ และวันอาทิตย์
หลังข่าวภาคค่ำ 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ออกอากาศต่อจากละครเรื่องธรณีนี่นี้ใครครอง
ละคร รักเกิดในตลาดสด เริ่มออกอากาศ ตอนแรกวันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2555
ที่มา ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความละครย่อTVตอนล่าสุด