อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 2 วันที่ 29 ก.ค. 55
ณดาบอกว่า เมื่อตนทำหน้าที่เจ้าของตลาดแล้วก็ให้เขาทำหน้าที่ผู้เช่าที่ดีด้วย ต๋องควักเงินจ่ายค่าเช่าทันที ณดารับเงินไป ต่างมองกันด้วยความรู้สึกดีๆ แต่ณดายังเก็บอาการอย่างถือตัวooooooo
แต่พอกลับถึงบ้าน คุณนายสดศรีก็หัวเสีย เมื่อเสี่ยชายศักดิ์อดีตคนรักควงรัศมีภรรยาของเขามาถามเรื่องจะขอซื้อตลาด เพื่อขยายห้างของตนที่มาเปิดอยู่ข้างๆ
“ถ้าจะมาพูดเรื่องเดิม ฉันบอกได้เลยว่าเสียเวลาเปล่า ยังไงๆฉันก็ไม่มีวันขายตลาดให้เธอแน่”
“ตกลงว่าไม่ยอมขายเพื่อเก็บไว้เป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่เคยมีกับเสี่ยชายศักดิ์นี่เอง” รัศมียิ้มหยัน
เมื่อสดศรียืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่ยอมขายตลาด ไล่ทั้งสองออกไปและไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก ชายศักดิ์เดินออกไป ทิ้งคำขู่ไว้ว่า “แล้วเธอจะเสียใจ”
ชายศักดิ์เดินออกไปอย่างขัดใจ รัศมีรีบตาม วินาทีนั้นสดศรีถึงกับแสดงสายตาอ่อนแอออกมา...
ไม่ทันข้ามวัน ทวีคนรับใช้บ้านคุณนายสดศรีก็ไปเม้าท์ที่ร้านเสริมสวย ทั้งชมพู่ น้อยหน่า และเครือฟ้าที่นั่งฟังอยู่ด้วย ต่างขุดคุ้ยความหลังของคุณนายสดศรีกับชายศักดิ์กันอย่างเมามัน
ใครๆ ก็รู้กันว่าสดศรีเป็นคนอุ้มชูชายศักดิ์ให้เป็นผู้เป็นคนขึ้นมา พอได้ดีก็ทิ้งสดศรีไปอยู่กับรัศมี อ้างว่าทำเธอท้อง ส่วนสดศรีก็รีบแต่งงานและมีณดาทันทีจนคนพากันสงสัยว่า ณดาเป็นลูกใครกันแน่ แต่ทวีก็เถียงแทนคุณนายว่า
“คุณณดาก็ต้องเป็นลูกคุณกริชสามีใหม่ของคุณนายสิ”
ก่อนปิดฉากนินทา ทวีย้ำว่า “อ้อ...ชมพู่ น้อยหน่า ไอ้เรื่องที่เล่าวันนี้น่ะ เหยียบไว้ให้มิดเลยนะ อย่าบอกต่อล่ะ ถึงหูคุณนายล่ะยุ่ง”
“อุ๊ย...ไม่ต้องห่วง” ชมพู่กับน้อยหน่าตอบพร้อมกันอย่างหนักแน่นตามธรรมเนียมของทุกคนในวงนินทาทั่วไป
ooooooo
ทวีคล้อยหลังไปเก้าอี้ที่นั่งยังอุ่นๆอยู่ ชมพู่ก็ออกไปเม้าท์ที่ร้านข้าวแกงของป้าพิณอย่างเมามัน แล้วมีเขียวหวานผู้ช่วยสาวชาวกะเหรี่ยงและคำมูลพ่อค้าส้มตำร่วมวงด้วย ป้าพิณที่รู้เรื่องของคุณนายสดศรีกับชายศักดิ์เป็นพื้นอยู่แล้ว พอฟังชมพู่เล่าว่าชายศักดิ์พาเมียใหม่ไปขอซื้อตลาดจากคุณนายก็ตบเข่าฉาด
“บ๊ะ...เสี่ยชายศักดิ์นี่มันหน้าด้านจริงๆ จูงมือเมียใหม่ไปขอซื้อที่เมียเก่าถึงบ้าน เป็นผัวข้าหน่อยล่ะจะสาดด้วยต้มฟักร้อนๆให้”
เขียวหวานถามว่าแล้วคุณนายจะขายตลาดให้เสี่ยไหม
“จะมีเมียคนไหนยอมขายที่ให้ผัวที่ทิ้งตัวเองไปหาผู้หญิงคนใหม่ล่ะวะ เขียวหวาน ถ้าเป็นแก...แกยอมไหม” ชมพู่ถาม หลังจากนินทากันพอหายเหงาปากคันใจแล้ว ชมพู่กำชับป้าพิณกับเขียวหวานว่า “นี่...เรื่องนี้น่ะรู้แล้วเหยียบไว้นะ เดี๋ยวพี่ทวีจะเดือดร้อน”
“อุ๊ย...ไม่ต้องห่วง” ป้าพิณกับเขียวหวานตอบเป็นเสียงเดียวกัน พอชมพู่กลับไปที่ร้าน มีลูกค้าคนใหม่สวนเข้ามาสั่งข้าวแกงเขียวหวานไข่ดาว ป้าพิณตักไปก็กระซิบกระซาบไปทันทีว่า “เอ้อ...ว่าแต่นี่แกรู้ไหม ไอ้เสี่ยชายศักดิ์เจ้าของห้างเวรี่แฮปปี้น่ะ...”
ooooooo
วันนี้กิมฮวยรู้สึกปวดเอวจึงกลับไปเอนหลัง ให้กิมลั้งเก็บแผงปลาคนเดียว
เหมือนทิ้งปลาย่างไว้ล่อแมว เพียงกิมฮวยออกจากตลาดไป ต๋องที่กำลังเก็บแผงผักอยู่ก็หาทางเรียกความสนใจจากกิมลั้ง พอดีวิทยุเปิดเพลงรัก ต๋องเลยเร่งเสียงหันวิทยุไปทางแผงของกิมลั้ง พอฝ่ายนั้นหันมองก็รีบส่งยิ้มให้แถมยกมือทำรูปหัวใจส่งให้ด้วย กิมลั้งเห็นแล้วแอบยิ้มขำๆ ความล้นของต๋อง
ต๋องจับตาดูกิมลั้งอยู่ เห็นกิมลั้งไปนั่งไล่ดูรูปหน้าคนที่เขียนบนนิ้วมือตัวเองในโทรศัพท์มืิอถือ เหมือนนำเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ จะถ่ายใหม่ก็ไม่ถนัด ต๋องเลยอาสาเข้าไปช่วยถ่าย เห็นรูปแล้วถามว่า ทำไมถึงชอบถ่ายรูป นิ้วมือตามที่ต่างๆ
“อิืม...มันคงเป็นตัวแทนฉันที่อยากออกไปท่องโลกมั้ง” ต๋องถามว่าท่องโลกอะไร เห็นแต่ละรูปมีแต่ในกรุงเทพฯ ทั้งนั้น กิมลั้งพูดเศร้าๆว่า “ทำไงได้ล่ะ นายก็เห็นว่าวันๆ ชีวิตฉันก็เวียนวนอยู่แต่ในตลาด มีโอกาสได้ไปไหนกับใครเขาบ้างล่ะ”
“ไม่มีใครเลือกชีวิตให้ตัวเองไม่ได้หรอกกิมลั้ง” กิมลั้งบอกว่าตนนี่ไง “ถ้าเธอเลือกไม่ได้จริงๆ งั้นฉันช่วยเลือกให้”
กิมลั้งถามว่าเป็นอะไรกับตนถึงจะมาเที่ยวจัดการนู่นนี่นั่นให้ ต๋องทำกะลิ้มกะเหลี่ยบอกว่าที่จริงก็อยากเป็นอยู่นะ แล้วเจ้าเล่ห์ทำเป็นโทรศัพท์หาย ขอยืมโทรศัพท์ ของกิมลั้งโทรเข้าเบอร์ตัวเองดูซิว่ามันอยู่ไหน ปรากฎว่า มันดังอยู่ในกระเป๋ากางเกงนั่นเอง จากนั้นทำทีคืนให้ แต่แอบเมมเบอร์ไว้ว่า “กิมลั้ง”
ขายผักได้สองสามวัน ต๋องก็คิดจะทำสลัดผักไปขายด้วย ติ๋มชมว่าขยันคิดโน่นคิดนี่เรียกลูกค้าดีจัง แต่พอเต๋ามาเห็นก็เอ็ดน้องชายว่าพิสดารอะไรอีก มีเวลาเหลือเฟือนักรึไง บ้านช่องไม่กวาดไม่ถูเหยียบเข้ามามีแต่ฝุ่น
ต๋องบอกว่าจัดผักเสร็จจะไปถู เต๋าสั่งให้ทำเดี๋ยวนี้เลย ถ้ายังมัววุ่นอยู่กับสลัดบ้าบออะไรอยู่อีก มีเรื่องแน่ ว่าแล้วก็ประคองติ๋มชวนไปนั่งกินอะไรกันหน้าบ้านดีกว่า ตนซื้อขนมมาฝากเพียบเลย ต๋องเหลือบมองแล้วถอนใจเซ็งๆ
ooooooo
คืนนี้กิมแชร้องคาราโอเกะในห้องนอน มีกิมลั้งนั่งฟังอยู่ เธอปล่อยพลังเสียงเต็มที่ กิมฮวยได้ยินพรวดเข้ามาด่าว่า จะบ้าหรือดึกดื่นป่านนี้ยังแหกปากร้องเพลง ลั่นบ้าน
กิมแชหน้าจ๋อยขอโทษแม่ บอกว่าพรุ่งนี้จะไปประกวดร้องเพลง คืนนี้เลยซ้อมสักหน่อย กิมฮวยเลยมีเรื่องด่าต่ออีกว่า
“ดูสารรูปตัวเองให้ดีซิอากิมแช หุ่นเตี้ย ตัวตัน
แบบนี้ ใครเขาจะเอาลื้อไปทำนักร้องให้เปลืองแผ่น”
กิมแชน้อยใจน้ำตาคลอ เคี้ยงเข้ามาถามว่าทำไมว่าลูกแบบนี้ เลยโดนไปอีกคนว่า แล้วจะให้เยินยอให้ละเมอเพ้อพกไปวันๆงั้นหรือ แล้วด่ากิมแชต่อ “นี่มันโลกแห่งความจริง ไม่ใช่ความฝัน คนอย่างลื้อน่ะ ทำงานบ้านงานเรือนให้เก่งแล้วมีผู้ชายมาขอไปเป็นเมียก็บุญแล้ว”
ด่าลูก ว่าผัว แล้วกิมฮวยก็ออกไป กิมแชโผเข้ากอดกิมลั้งร้องไห้ บอกพี่สาวว่าแม่ไม่เคยให้กำลังใจตนเลย ไม่เคยส่งเสริมให้ตนทำอะไรสักอย่าง นอกจากให้ขลุกอยู่กับงานบ้านแบบนี้ กิมลั้งบอกว่าตนก็ไม่ต่างกันหรอกเพราะตนก็ถูกขังให้อยู่แต่ในตลาดเหมือนกัน
“รู้ไหม...บางทีอั๊วเคยคิดจะหนีออกไปจากที่นี่เหมือนกันนะ”
“ไม่ได้นะกิมแช ลื้ออย่าคิดอย่างนั้นเด็ดขาดนะ ถ้าลื้อหนีออกจากบ้านไป ม้าจะเป็นห่วงแค่ไหน จำไว้นะ ถึงจะยังไงม้าก็รักเราสองคนมากที่สุดแล้ว”
“ที่ผ่านๆมานี่คือการแสดงความรักของม้าแล้วใช่ไหม” กิมแชถาม กิมลั้งอึกอักตอบไม่ถูกเหมือนกัน
ooooooo
จาตุรงค์หรือที่เต็กไฮ้เรียกติดปากว่า อาใจอัง เขาหงุดหงิดทุกครั้งที่ป๊าเรียกชื่อเก่า ย้ำให้เรียกจาตุรงค์ที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่ วันนี้เขาตามมาถึงเขียงหมู เพื่อขอเงินไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ
เต็กไฮ้บ่นว่าเรียนจบยังไม่มีงานทำก็เอาแต่สังสรรค์ใช้เงิน จาตุรงค์อ้อนว่าเพื่อนๆที่เรียนด้วยกันมีแต่พวกลูกคุณหญิงคุณนายทั้งนั้น เผื่อตนจะได้งานดีๆทำบ้าง ลักษณ์บอกเต็กไฮ้ว่าให้ลูกไปเถอะ เต็กไฮ้เชื่อฟังเมียอยู่แล้วยอมให้เงินแต่มีข้อแม้ว่า ต้องเดินไปหากิมลั้งลูกกิมฮวยที่ผู้ใหญ่สองฝ่ายหมายมั่นว่าต้องแต่งงานกันก่อน ถามว่าจำได้ไหม จาตุรงค์บอกว่าจำได้ เด็กผู้หญิงตัวดำๆสกปรกและซนเป็นลิงคนนั้น
เต็กไฮ้ย้ำความจำเป็นที่ต้องไปพบว่า เพราะผลัดมาเรื่อยมาไม่ไปเจอกันเสียที กิมฮวยเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเราจะยอมเป็นทองแผ่นเดียวกับเขารึเปล่า
เพราะอยากได้เงินไปสังสรรค์ จาตุรงค์จำใจ เอานิ้วเกี่ยวถุงใส่หมูไปอย่างรังเกียจ เอาไปที่แผงขายปลาของกิมฮวย พูดให้ดูดีว่า “ป๊ากับม้าบอกว่าน้าอยากทำหมูสะเต๊ะเลยให้เอาหมูมาฝาก” กิมฮวยดีใจมากรีบฟื้นความจำกันว่า จำกิมลั้งที่เคยเล่นด้วยกันตอนเด็กๆได้ไหม
“จำได้สิครับ ผมไม่เคยลืมน้องกิมลั้งเลย ตอนเด็กสวยสดใสยังไง โตมาก็สวยอย่างนั้น เป็นเพราะมีแม่พิมพ์ดีอย่างน้ากิมฮวยแท้ๆ” จาตุรงค์ชมลูกเลยไปถึงแม่ ทำเอากิมฮวยเขิน
ต๋องหมั่นไส้เลยทำเสียงคลื่นไส้ เดินเฉี่ยวจาตุรงค์ออกไป ฝ่ายจาตุรงค์มาหยอดคำหวานแล้วรีบขอตัวบอกว่ามีนัดกับเพื่อน พอจาตุรงค์เดินไป กิมฮวยที่ยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ก็หันมาบอกกิมลั้งว่า
“อาจาตุรงค์นี่ไง ลูกชายคนเดียวของเต็กไฮ้ที่ม้าหมายมั่นจะให้เป็นผัวลื้อ”
“อะไรนะม้า?” กิมลั้งรับไม่ได้ ไม่อยากฟังอีก ลุกไปล้างมือที่ข้างตลาด ล้างมือไปบ่นไปอย่างสะอิดสะเอียนว่า “ยี้...อาจาตุรงค์เนี่ยนะ ขี้หลี...ขี้ประจบ...ท่าทางจะขี้เกียจด้วย”
อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 2 วันที่ 29 ก.ค. 55
ละคร รักเกิดในตลาดสด บทประพันธ์โดย : นราวดีละคร รักเกิดในตลาดสด บทโทรทัศน์โดย : สนุกคิด-สนิทเขียน
ละคร รักเกิดในตลาดสด กำกับการแสดงโดย : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละคร รักเกิดในตลาดสด แนวละคร : โรแมนติก คอมเมดี้ เบาสมองตลกสนุกสนาน
ละคร รักเกิดในตลาดสด ผลิต : บริษัท แอ็คอาร์ต เจเนอเรชั่น จำกัด โดยผู้จัด ธัญญา วชิรบรรจง
ละคร รักเกิดในตลาดสด ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-เสาร์ และวันอาทิตย์
หลังข่าวภาคค่ำ 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ออกอากาศต่อจากละครเรื่องธรณีนี่นี้ใครครอง
ละคร รักเกิดในตลาดสด เริ่มออกอากาศ ตอนแรกวันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2555
ที่มา ไทยรัฐ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น