@. อ่านละครทีวี.@

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 1-2 วันที่ 28 ก.ค. 55

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 1

กิมฮวยไม่พูดแต่มองลูกสาวอย่างเบื่อหน่ายที่ช่างไม่เข้าใจอะไรเอาเสียเลย

ที่ห้องอาหารบ้านกิมฮวยวันนี้จึงมีครอบครัวกิมฮวย อันมีเคี้ยง กิมลั้งและกิมแชน้องสาวพร้อมหน้า ส่วนอีกครอบครัวเต็กไฮ้พาลักษณ์มาด้วย ทั้งสองครอบครัวมาระลึกอดีตเพื่อให้รุ่นลูกอย่างกิมลั้งกับกิมแชเข้าใจอนาคตที่จะต้องเป็นไป

เริ่มจากเต็กไฮ้เล่าว่า เมื่อก่อนพ่อแม่ตนกับพ่อแม่ของกิมฮวยจับมือสาบานกันต่อหน้าบรรพบุรุษว่า ถ้ามีลูกจะให้ลูกได้แต่งงานกัน แต่บังเอิญตนไปทำลักษณ์ท้องและกิมฮวยก็มีเคี้ยงมาชอบ ที่สาบานไว้กับบรรพบุรุษเลยต้องยกเลิก

กิมฮวยเสริมว่าคำสาบานที่ให้กับบรรพบุรุษนั้นสำคัญ ถ้าใครไม่ทำตามก็จะมีอันเป็นไป พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายเลยให้พวกตนเลือกว่าจะทำตามคำสัญญาหรือจะยกยอดไปให้ลูกที่จะเกิดมาทำแทน ทั้งกิมฮวยและเต็กไฮ้ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า



“ให้ลูกทำแทน”

“เฮ้อ...ลูกก็เลยต้องซวยแทน” กิมลั้งพลั้งปากออกมา ถูกกิมฮวยถามว่าพูดอะไร กิมลั้งเอาตัวรอดได้อย่างลื่นไหลตามเคยว่า “อั๊วบอกว่าลูกๆก็เลยต้องช่วยทำแทน”

กิมฮวยถามกิมลั้งว่า ตอนนี้เข้าใจรึยังว่าทำไมต้องแต่งงานกับจาตุรงค์ลูกอาเจ็กเต็กไฮ้

“แล้วเกิดตอนนี้เจ๊กิมลั้งท้องอยู่กับผู้ชายอื่นล่ะ” กิมแชขี้สงสัยถามขึ้น ทำเอาทุกคนตกใจ จนกิมแชต้องรีบบอกว่าตนแค่ติ๋งต่างเท่านั้น กิมฮวยถอนใจโล่งอกด่ากิมแชว่าซี้ซั้วต่า และตนจะไม่ยอมให้เป็น

อย่างนั้นเด็ดขาด เพราะถ้าผิดสัญญากับบรรพบุรุษอีกรุ่นตระกูลของเราล่มจมแน่

เคี้ยงเห็นว่ากิมลั้งถูกกดดันมากเลยตัดบทว่าเลิกพูดเรื่องเครียดๆ ดีกว่า แต่ก็ถามเต็กไฮ้ว่าเมื่อไหร่จาตุรงค์จะมาเจอกับกิมลั้งเสียที ถ้าได้ไปมาหาสู่กัน ลูกของเราก็จะได้คุ้นเคยกันมากขึ้น กิมฮวยเสริมทันทีว่านั่นสิ เจอกันครั้งสุดท้ายตอนเด็กมาก ตนยังจำได้ว่าลูกๆเราชอบเล่นผัวเมียกันเป็นประจำ

“จริงๆด้วย แต่อั๊วรับรองว่าเล่นตอนโตนี่สนุกกว่าตอนเด็กแน่ๆอากิมลั้ง” เต็กไฮ้บอกกิมลั้ง แล้วพวกผู้ใหญ่ก็พากันหัวเราะชอบใจ กิมลั้งหันมองหน้ากิมแชยิ้มกันเขินๆ ทำนองว่า พวกผู้ใหญ่นี่คุยอะไรกันก็ไม่รู้ ลักษณ์เลยตัดบทว่า

“เอาเป็นว่า...อั๊วจะรีบบอกจาตุรงค์ให้มาหาหนูกิมลั้งแล้วกัน ที่ผ่านมาอีมัวแต่คร่ำเคร่งอยู่กับการเรียน เลยไม่ได้สนใจเรื่องอื่น นี่อีก็เพิ่งจบ คงมีเวลาทำความรู้จักกับหนูกิมลั้งมากขึ้น”

พูดแล้วพวกผู้ใหญ่ก็พากันออกไปอย่างยิ้มแย้มเบิกบานใจ ทิ้งให้กิมลั้งจมอยู่กับกองทุกข์ที่ต้องรับช่วงคำสัญญาที่ให้ไว้กับบรรพบุรุษต่อจากแม่ กิมแชสังเกตอยู่ ได้แต่มองพี่สาวอย่างเห็นใจ

พออยู่กันตามลำพัง กิมแชถามพี่สาวว่าเหนื่อยใจเหรอเจ๊ กิมลั้งถามว่ามันน่าเบื่อไหมล่ะที่เราทำอะไรกับชีวิตตัวเองไม่ได้ กิมแชเลยยุให้พี่สาวปฏิเสธเรื่องจาตุรงค์ไปเสีย

“คนในบ้านนี้ไม่ทำตามความต้องการของม้าได้ด้วยเหรอ”

“หรือบางทีมันถึงเวลาที่เราต้องหัดทำตามความต้องการของตัวเองสักทีไหมเจ๊” กิมแชกุมมือพี่สาวชวนก่อกบฏ กิมลั้งได้แต่ยิ้มเจื่อนๆเหมือนจะบอกน้องสาวว่า มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้...

ooooooo

เกิดเรื่องได้แค่ข้ามวัน ต๋องก็ถูกเต๋าโวยวายว่าไปมีเรื่องกับเจ๊กิมฮวยได้ยังไง รู้ไหมว่าเจ๊แกใหญ่แค่ไหน ในตลาดใครมีเรื่องกับเจ๊ก็เท่ากับปิดประตูตอกฝาโลงตัวเอง ตำหนิว่า ทุกอย่างติ๋มปูทางไว้พังหมดภายในวันเดียวที่ต๋องไปขายผักแทน

ต๋องพยายามชี้แจงว่าตนแค่ว่าไปตามความถูกต้อง ตามเหตุตามผล แต่ไปเถียงกับคนไม่มีเหตุผลก็เลยกลายเป็นความผิด

เต๋าสั่งต๋องว่าพรุ่งนี้ต้องไปขอโทษเจ๊กิมฮวยที่ตลาด เพราะมันคือทางเดียวที่เจ๊แกจะให้อภัย ต๋องเข้าใจไม่ได้ว่าในเมื่อตนไม่ได้ทำผิดอะไรทำไมต้องขอโทษและขอให้เจ๊ให้อภัย?? แต่ชี้แจงไม่ได้เพราะพออ้าปากเต๋าก็คว้าของจะเขวี้ยงใส่เสียแล้ว เลยต้องวิ่งเอาตัวรอดปลอดภัยไว้ก่อน

ดังนั้น รุ่งขึ้น ต๋องไปตลาดพร้อมถุงโอเลี้ยง พอเห็นเจ๊กิมฮวยต๋องก็เดินรี่เข้าไป ชาวตลาดพากันมองเป็นตาเดียว คิดว่าเดี๋ยวได้ดูฉากเด็ดแน่ เสือกำลังจะเผชิญกับสิงห์แล้ว

แต่แล้วทุกคนต้องผิดหวัง เพราะต๋องเอาถุงโอเลี้ยงที่เกี่ยวนิ้วก้อยมา ไปยื่นให้เจ๊กิมฮวยพร้อมคำขอโทษที่เผลอไผลล่วงเกินไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เล่นสำนวนว่า “ถ้าเป็นความบกพร่องก็เป็นความบกพร่องโดยสุจริต น้ากิมฮวยคงเข้าใจนะจ๊ะ”

เจ๊รับถุงโอเลี้ยงจากต๋อง มองหน้าแล้วค่อยๆ เททิ้ง บอกว่าความผิดไม่ได้ลบกันง่ายๆแบบนี้ มองโอเลี้ยงที่ถูกเทราดที่พื้นบอกว่า

“โอเลี้ยงถุงนี้ อั๊วถือว่ากรวดน้ำคว่ำขันให้สัมภเวสีอย่างลื้อก็แล้วกัน นับจากวันนี้ ผีก็อยู่ส่วนผี คนก็อยู่ส่วนคน อย่าปะปนกัน”

ชาวตลาดพากันลุ้นใจระทึก ฟังเจ๊กิมฮวยแล้วหันมองต๋องว่าจะตอบโต้อย่างไร

“ไม่เป็นไรจ้ะน้ากิมฮวย เด็กอย่างฉันได้ทำหน้าที่แสดงน้ำใจกับผู้ใหญ่ไปแล้ว แต่ถ้าผู้ใหญ่ไม่มีน้ำใจตอบกลับมาให้ฉันก็คงต้องทำใจ” พูดแล้วหันไปพูดกับชาวตลาดตาละห้อย “ทุกคนก็คงเห็นสิ่งที่ฉันพยายามทำแล้ว”

หลอกด่ากิมฮวยเนียนๆนิ่มๆแล้ว ต๋องก็ทำเป็นเดินเซื่องๆหงอยๆออกไป ชาวตลาดพากันร้อง “โถ...” แล้วหันไปซุบซิบกันเบาๆ กิมฮวยกลายเป็นคนโดดเดี่ยวก็ยิ่งโมโหฮึดฮัด เลื่อนกับรักเร่เห็นแจ๊แกโมโหฮึดฮัดก็ขำ ชมต๋องว่าเล่นเจ๊เสียแทบกระอัก นี่แค่มาวันสองวันเท่านั้นนะเนี่ย

“เหนือกระดาษยังมีซาลาเปา เหนือน้ำเน่ายังมียุงลายเว้ย” รักเร่เล่นคำคมที่แสนทื่อ จนเลื่อนสงสัยว่านี่เป็นคำชมหรือเปล่า “ชมจากใจจริงเว้ย เจ๊น่ะต้องเจอผู้ท้าชิงซะบ้าง ต่อไปเราคงมีคู่ขวัญคู่ใหม่ให้คนในตลาดลุ้นระทึกรายวันแน่ๆ”

เรื่องคู่กัดต่างวัยที่มีลุ้นกันเป็นรายวัน กลายเป็นเรื่องคุยกันมันทั้งในตลาด และละแวกนั้นชั่วโมงต่อชั่วโมง วันต่อวัน

ooooooo

เพราะตลาดร่วมใจเกื้อนับวันซบเซาเพราะมีห้างสรรพสินค้ามาเปิดใกล้ๆ และมีข่าวไฟไหม้จนหนีกันโกลาหลผู้คนยังไม่หายตกใจพากันไปซื้อของในห้างเกือบหมด วันนี้ชาวตลาดร่วมใจเกื้อจึงร่วมใจกันตั้งปะรำทำพิธีปัดรังควาน โดยมีจะเด็ดเป็นร่างทรง มีบะหมี่คอยตีระฆังเล็ก และเกี๊ยวคอยเคาะกะลา

ครู่เดียวร่างจะเด็ดก็สั่นพั่บๆมีเสียงครืดคราดชาวตลาดที่มาร่วมพิธีพากันฮือฮา กิมฮวยพูดอย่างตื่นเต้นว่า

“เจ้าพ่อสมิงดำลงประทับแล้ว...”

ครู่เดียวจะเด็ดก็เงยหน้าชี้กราดด่าทุกคนว่าเรียกตนมาทำไมตอนนี้ รู้ๆอยู่ว่าเป็นช่วงจำศีลของตนแล้วปัดกวาดข้าวของล้มกลิ้งกระจัดกระจาย เกี๊ยวรีบเทเหล้าจากไหใส่ถ้วยตะไลส่งสัญญาณให้กิมฮวยเอาไปถวายเจ้า พอเจ้ารับไปซดก็อารมณ์ดีขึ้น กิมฮวยพูดอย่างนอบน้อมว่า

“ขอโทษด้วยค่ะท่าน ลูกช้างรอไม่ไหวแล้วจริงๆ ถ้าไม่รีบอัญเชิญท่านมาตอนนี้ คงได้พากันซี้หมู่แหงๆ”

“จริงครับท่าน ตอนนี้ตลาดร่วมใจเกื้อของเราน่ะซบเซามาก ลูกค้าหดหาย คนขายหดหู่ ยิ่งมีห้างใหม่มาเปิดข้างหน้าตลาดเราก็แทบจะกลายเป็นป่าช้าแล้ว” เต็กไฮ้ช่วยเสริม

“เรื่องแบบนี้แล้วแต่เวรกรรมเว้ย ใครทำบุญมากก็ได้มาก ทำบุญน้อยก็ได้น้อย” จะเด็ดกวาดตามองทุกคน ชาวตลาดรีบพากันควักเงินใส่พานที่อยู่ตรงหน้าจะเด็ดกันให้ควั่ก จะเด็ดทำท่าเหมือนไม่สนใจเงิน ถามว่า “แล้วเอ็งจะให้ข้าช่วยอะไร”

คิตตี้ขอให้ช่วยปัดรังควานอาเพศ ที่ครอบคลุมตลาดเราอยู่ เห็นว่ามีแต่ท่านเท่านั้นที่จะช่วยพวกเราได้ ชาวตลาดพากันยกมือไหว้ท่านพูดพร้อมกันว่า

“ช่วยพวกเราด้วย...”

ooooooo

อีกมุมหนึ่งของตลาด ต๋องกับพรรคพวกกำลังซ้อมดนตรีกันอยู่ ต๋องมองไปที่ปะรำพิธีเห็นชาวตลาดพนมมือไหว้จะเด็ดกันปลกๆ ก็หันลำโพงไปทางปะรำพิธี แผดเสียงร้องเพลงฮิพฮอพให้ทะลุทะลวงเข้าไปในพิธี...

“...ไม่ช่วยตัวเองแล้วใครจะช่วย ไม่ช่วยตัวเองแล้วใครจะช่วย อยากมีเงินทองร่ำรวยก็ต้องช่วยตัวเองไง ไม่มีใครได้ไปทางลัด บนบาน หมอบคลาน ปัดเดี๋ยวปั๊ด...”

ต๋องร้องเพลงพลางก็ชำเลืองไปทางปะรำพิธีเห็นทุกคนยังง่วนอยู่กับพิธีของจะเด็ด เลยแผดเสียงดังยิ่งขึ้น

“...เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวอ่อนหัด รอฟ้าฝนแล้วได้ผลไหม...ฮาฟ...มัวงอไม้งอมือไม่ยืนหยัด บอกได้เลยครับ คงต้องซวยกันต่อไป...โอม...เพี้ยง...”

เสียงเพลงที่ดังลั่นและเนื้อเพลงที่เสียดสี ทำให้จะเด็ดเสียสมาธิท่องคาถาผิดๆถูกๆ อาการสั่นมากขึ้นเพราะโกรธจัด ชาวตลาดพากันตกใจ กิมฮวยหันด่าต๋องที่แผดเสียง “ไอ้เวรต๋อง...” แล้วลุกเดินอ้าวไป เคี้ยงเป็นห่วงเลยตามไปด้วย

พอไปถึงกิมฮวยก็ด่าต๋องว่าจงใจกวนประสาทใช่ไหม ไม่เห็นหรือว่าเขากำลังทำพิธีกันอยู่ ต๋องอ้างว่าพวกตนซ้อมดนตรีกันตรงนี้ประจำอยู่แล้ว เห็นชาวตลาดเครียดๆเลยมาเล่นดนตรีให้ฟังยังไม่ดีอีกหรือ

ต๋องถูกกิมฮวยด่า ต๋องยิ่งอธิบายยิ่งชี้แจงก็เหมือนยิ่งยั่วให้กิมฮวยโมโห หันไปคว้าไม้กวาดแถวนั้นจะฟาด ต๋องกับเพื่อนเลยต้องเก็บเครื่องดนตรีถอยไปแต่โดยดี

กิมฮวยกลับไปที่ปะรำพิธีรับน้ำมนต์ที่จะเด็ดกำลังพรมให้ชาวตลาด กิมฮวยรีบเข้าไปรับน้ำมนต์ด้วยใบหน้าอิ่มสุขราวกับรับน้ำทิพย์จากสวรรค์ก็ไม่ปาน...

ooooooo

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 2

ต๋องหนีด้ามไม้กวาดของกิมฮวยไปตั้งวงเล่นที่อีกมุมหนึ่งในตลาด รักเร่เห็นต๋องหน้ามุ่ย ถามว่ายังอารมณ์ค้างอยู่หรือ เลื่อนเปรยๆว่า ก็รู้อยู่ว่ากิมฮวยเหม็นขี้หน้าตัวเองยังหาเรื่องใส่ตัวอีก บ่นแกมประชดต๋องว่า

“ตั้งลำโพงเสียงดังขนาดนั้น ฉันว่าพี่เดินเข้าไปพังพิธีเสียเลยดีกว่า”

“ก็กะจะทำเหมือนกันถ้าไม่กลัวโดนประชาทัณฑ์เสียก่อน ไม่เข้าใจเลยว่าคนที่นี่คิดอะไรกันอยู่ เชื่อกันเข้าไปได้...เจ้าพ่อสมันดำ”

“สมิงดำ” เลื่อนกับรักเร่บอกพร้อมกัน

ต๋องบ่นว่ามัวแต่ดูปาหี่แย่งกันรับน้ำมนต์ นี่หรือวิธีแก้ปัญหาชีวิต เลื่อนบอกว่าคนมันทุกข์ หาทางออกไม่ได้ก็ต้องยึดไว้ให้อุ่นใจก็ยังดี

“เลื่อน...ทางออกน่ะมันมี อยู่ที่เราอยากจะเดินไปเจอมันรึเปล่า” ต๋องบอก รักเร่ติงว่าอยากเจอแต่มันไม่มาให้เราเจอมากกว่า ต๋องเลยชี้ว่า “เราจะเจอมันได้ก็ต่อเมื่อเปลี่ยนวิธีคิดเว้ยไอ้รักเร่ ถ้าเปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตมันก็จะเปลี่ยน”

“ยังไง?...ยังงง...” รักเร่กับเลื่อนมองหน้าต๋อง

“อย่างแรกเลยนะ ต้องไม่นอนรอโชคชะตา หวังพึ่งเจ้าที่ไหนให้มาช่วยเสกคนเข้าตลาด ขั้นต่อไป...ทุกคนก็ต้องหัดคิดถึงตัวเองให้น้อยลง จะได้คิดถึงส่วนรวมให้มากขึ้น แต่ขั้นตอนนี้คงจะยากหน่อย”

เลื่อนถามว่าทำไมล่ะ ต๋องชี้ให้ดูป้ายตลาด “แค่ป้ายชื่อตลาด ขนาดสระอือหายไปยังไม่คิดจะช่วยกันแก้ไขเลย” เลื่อนกับรักเร่เห็นชื่อตลาดกลายเป็น “ตลาดร่วมใจเก้อ” จริงๆต๋องพูดต่ออีกว่า “ตลาดร่วมใจเกื้อ

กลายเป็นร่วมใจเก้อ ก็มัวแต่รวมตัวกันง่วนกับเรื่องงมงาย ทำอะไรมันถึงได้เก้อไง”

ต๋องพูดไม่ทันขาดคำ น็อตตัวหนึ่งที่ตัว อ.อ่างหลุด ทำให้ตัว อ.ห้อยร่องแร่ง ตลาดเลยกลายเป็นชื่อ “ตลาดร่วมใจเก้”

“เห็นแล้วหมดแรง ซ้อมเพลงเติมไฟกันดีกว่าเว้ยเฮ้ย...” ต๋องหันไปนับจังหวะให้ซ้อมเพลงกันต่อแก้เซ็ง

ooooooo

ต๋องซ้อมเพลงได้ครู่เดียว กิมลั้งก็โผล่มาอย่างได้จังหวะเหมือนนางเอกมิวสิกเดินออกมาเลยทีเดียว ต๋องเห็นดังนั้นก็ยิ่งแผดเสียงร้องอย่างจัดหนัก เท่านั้นไม่พอ เอื้อมมือไปเร่งเครื่องเสียงขึ้นอีก

ทันใดนั้น ไฟช็อตพรึ่บ มืดไปทั้งบริเวณ ต๋องตกใจกระโดดไปทางกิมลั้ง เลยพากันตกลงไปในเข่งใบใหญ่ที่วางอยู่แถวนั้น สองคนเบียดกันอยู่ในเข่ง ต่างจ้องหน้ากันใจวูบวาบ...วูบวาบ...

ขณะนั้นเอง กิมฮวยกับชาวตลาดและจะเด็ดเดินมาเห็นเข้า กิมฮวยร้อง “ไอ้หยา...อากิมลั้ง” แล้วรีบเข้าไปดึงตัวกิมลั้งขึ้นจากเข่ง ปากก็ด่าต๋องหาว่าฉวยโอกาสกับลูกสาวตน ต๋องร้องเสียงหลงว่าทั้งหมดมันเป็นอุบัติเหตุ กิมลั้งก็ยืนยันว่า

“มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ เมื่อกี้อยู่ๆพวกเครื่องดนตรีก็ไฟช็อตขึ้นมา ต๋องเขากระโดดหนีเลยมาชนกับอั๊วเข้า ก็เลยล้ม”

“อ๋อ...ที่แท้ก็ลื้อนี่เองที่ทำให้ไฟดับทั้งตลาด แล้วพรุ่งนี้จะขายของกันยังไงหา!” กิมฮวยหาเรื่องโทษต๋องจนได้ พวกแม่ค้าที่มาด้วยเลยพากันโวยใส่ต๋อง กิมฮวยบอกจะเด็ดว่ากำลังหาที่ปิดยันต์อยู่ใช่ไหม หน้าไอ้ต๋องนี่แหละเหมาะที่สุดแล้ว

จะเด็ดบ้าจี้เอายันต์ไปติดที่หน้าผากต๋องแล้วเอาน้ำมนต์พรมจนแทบจะเป็นอาบ บอกว่าปัดเสนียดจัญไรให้

“น้าจะเด็ด ขืนเข้ามาอีกก้าวเดียว ได้โดนฉันเอาก้านมะยมในมือน้าทั้งกำฟาดแน่” ต๋องฉุนขาด พอจะเด็ดชะงักต๋องต่อว่ากิมฮวย “อะไรกัน...มีอะไรก็โทษฉัน ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆไฟมันจะดับได้ยังไง ฉันซ้อมดนตรีของฉันอยู่ทุกวันไม่เห็นว่าไฟมันจะเคยช็อต”

“ขอโทษด้วยนะครับทุกคน” ยามของตลาดวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาบอก ทุกคนพากันงง ยามชี้แจงว่า “ที่ไฟมันดับน่ะ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับต๋องหรอกครับ” ยามอธิบายว่าตัวจ่ายไฟมันระเบิด เพราะใช้มาหลายปีแล้ว เคยเสนอคุณนายสดศรีเจ้าของตลาดให้เปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยนสักที บอกทุกคนให้สบายใจว่า “เดี๋ยวผมจะไปบอกแกที่บ้านคืนนี้ พรุ่งนี้ขายของจะได้ไม่ลำบากกัน”

ต๋องยืดอกมองหน้ากิมฮวยและทุกคน ถามว่า “เป็นไงล่ะ ทีนี้ยังจะมาโทษฉันอีกไหม ว่าไงน้ากิมฮวย ฉันล่ะอยากจะเอานํ้ามนต์พรมที่ปากน้าจริงๆ ปากพาซวยแบบนี้ ต้องไล่เสนียดหน่อย”

“นี่ลื้อด่าอั้วเหรอไอ้ต๋อง โธ่...ยังไงคนอย่างลื้อมันก็ตัวซวยวันยังคํ่าล่ะวะ ขนาดไฟจะช็อต ยังเลือกมาช็อตที่ลื้อเลย จริงไหมพวกเรา” กิมฮวยอาศัยเสียงดัง พวกมาก โยนความผิดให้ต๋องจนได้

ooooooo

วันรุ่งขึ้น ไฟยังไม่ทันมา คุณนายสดศรีก็มาเก็บค่าเช่าแผงแล้ว ได้รับจากใครเต็มเม็ดเต็มหน่วยง่ายๆก็ชมเปาะ ใครขอผัดผ่อนก็หยิบของบนแผงไปจนคุ้มค่าเช่า แม่ค้าได้แต่ทำตาปริบๆกับความเค็มของคุณนาย

ครู่ใหญ่ ณดาลูกสาววัยรุ่นของคุณนายก็ตามมาที่ตลาด ทวงว่าแม่ยังไม่ได้เซ็นเช็คให้ตนเลย

“เดี๋ยวแม่จะเซ็นให้ แต่หนูต้องไปช่วยแม่เก็บค่าเช่าแผงสุดท้ายก่อน” คุณนายเดินนำไป ณดาทำหน้าเซ็งๆ เดินตาม

เดินมาถึงแผงสุดท้ายที่ว่านั้น เป็นแผงขายผักที่ต๋องกำลังยกหนังสือขึ้นอ่านบังหน้าอยู่ พอคุณนายมาถึง ต๋องลดหนังสือลง ณดาเห็นต๋องถึงกับตะลึงในความหล่อ ส่วนคุณนายตั้งหน้าตั้งตาทวงค่าเช่าแผงลูกเดียว เลยถูกต๋องบ่นว่า คุณนายสนใจแต่จะเก็บค่าแผง เลยไม่เคยรู้ว่าชาวตลาดเดือดร้อนอะไรกันบ้าง ต๋องสาธยายว่า

“ไฟมันดับตั้งแต่เมื่อคืน ป่านนี้ทำไมคุณนายยังไม่จัดการให้เรียบร้อยอีกครับ เห็นไหมว่าพอไฟไม่มี ตลาดมันก็มืด ตลาดมืดแล้วลูกค้าที่ไหนจะเข้า” คุณนายเถียงข้างๆคูๆดันทุรังจะเก็บค่าเช่าอย่างเดียว ต๋องเลยยื่นคำขาดว่า “ไม่รู้ละ ถ้าวันนี้ไม่ซ่อมไฟให้เสร็จ ผมไม่จ่ายค่าเช่าคุณนายแน่”

พูดแล้วต๋องเดินออกไปอย่างไม่สนใจ คุณนายเดินตามทวงเงินยิกๆ ทำท่าจะโต้เถียงกันอีก ณดาเลยโพล่งขึ้นว่า

“ก็ได้...เดี๋ยวทางเราจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง”

คุณนายสดศรีหันขวับถามว่า ทำไมไปรับปากอย่างนั้น ณดาบอกแม่ว่า ที่จริงมันเป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้ว เพราะถ้าเขาขายของกันไม่ได้จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่าเรา

“ดีจังครับที่คุณเข้าใจอะไรง่าย” ต๋องชม ณดาขอให้ต๋องเข้าใจทางตนบ้าง บางอย่างถ้าช่วยกันได้ก็ช่วยกันบ้าง พลางเอานามบัตรให้ต๋องบอกว่าถ้ามีอะไรก็ติดต่อตนได้เลย เพราะตนจะมาช่วยคุณแม่ดูแลที่นี่ ต๋องรับนามบัตรไปเอ่ยเสียงอ่อน “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณณดา”

ณดาบอกว่า เมื่อตนทำหน้าที่เจ้าของตลาดแล้วก็ให้เขาทำหน้าที่ผู้เช่าที่ดีด้วย ต๋องควักเงินจ่ายค่าเช่าทันที ณดารับเงินไป ต่างมองกันด้วยความรู้สึกดีๆ แต่ณดายังเก็บอาการอย่างถือตัว

ooooooo

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 1-2 วันที่ 28 ก.ค. 55

ละคร รักเกิดในตลาดสด บทประพันธ์โดย : นราวดี
ละคร รักเกิดในตลาดสด บทโทรทัศน์โดย : สนุกคิด-สนิทเขียน
ละคร รักเกิดในตลาดสด กำกับการแสดงโดย : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละคร รักเกิดในตลาดสด แนวละคร : โรแมนติก คอมเมดี้ เบาสมองตลกสนุกสนาน
ละคร รักเกิดในตลาดสด ผลิต : บริษัท แอ็คอาร์ต เจเนอเรชั่น จำกัด โดยผู้จัด ธัญญา วชิรบรรจง
ละคร รักเกิดในตลาดสด ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-เสาร์ และวันอาทิตย์
หลังข่าวภาคค่ำ 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ออกอากาศต่อจากละครเรื่องธรณีนี่นี้ใครครอง
ละคร รักเกิดในตลาดสด เริ่มออกอากาศ ตอนแรกวันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2555
ที่มา ไทยรัฐ







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความละครย่อTVตอนล่าสุด