@. อ่านละครทีวี.@

อ่านละครย่อ หงส์สะบัดลาย ตอนที่ 3 วันที่ 16 ส.ค. 55

อ่านละครย่อ หงส์สะบัดลาย ตอนที่ 3 วันที่ 16 ส.ค. 55

เนติมามองตามด้วยความเป็นห่วง แล้วหันมาปรับทุกข์กับระบิล “เมื่อก่อนพี่ศิวัชไปไหนก็ขับรถไปเองได้สบายๆ แต่แค่ลงสนามการเมืองไม่กี่วันไปไหนมาไหนก็ต้องมีบอดี้การ์ด นายไม่เห็นเหรอ”
“คุณเองยังต้องมีผมตามประกบแจเลยไม่เห็นเหรอ”

“แต่นายกับการ์ดของพี่ศิวัชไม่เหมือนกันนี่ เพราะนายตลก ไม่เห็นเข้มเหมือนบอดี้การ์ดของพี่ศิวัชเลย ฮ่าๆ” เนติมาหัวเราะท่าทางกวนๆของระบิล

ชายหนุ่มทำเข้มขอร้องนายสาวอย่าพูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง เพราะกลัวเสียลุค แล้วรีบออกรถ

ไม่นานนักทั้งสองก็ถึงบ้านกันต์ เนติมาจะลงไปเปิดประตูบ้านแต่ระบิลรั้งไว้ เพราะเห็นประตูรั้วเปิดค้างไว้ เนติมาว่าบางทีอาเจือจันทร์อาจลืมปิดก็ได้

“ไม่ได้ลืมหรอกคุณ กุญแจมันถูกตัดน่ะ” ระบิลพูดเรียบๆ

เนติมาเห็นกุญแจคล้องประตูถูกตัดหล่นอยู่บนพื้นหน้าประตูก็นึกหวั่น

ooooooo

ในบ้านกันต์ ลูกน้องอิทธิหาญทำกร่างเข้ามาสั่งเจือจันทร์ทำอาหารรอบดึกให้ลูกพี่ แต่เจือจันทร์กลัวลนลานทำอะไรไม่ถูก พวกมันไม่พอใจจะหันไปทำลายข้าวของในบ้านเพื่อข่มขวัญ

กันต์พยายามจะเจรจาแต่ไม่เป็นผล และหวิดโดนพวกมันทำร้าย ระบิลมาถึงพอดี เขาตรงเข้าสั่งสอนเหล่าวายร้ายด้วยด้ามปืนและฝ่าเท้าลงไปนอนกอง ก่อนฝากข้อความไปถึงลูกพี่

“ที่นี่บ้านส่วนบุคคลไม่ใช่ร้านอาหารตามสั่ง ถ้าหิวโน่นร้านอาหาร หรือถ้าไม่มีเงินไปซื้อ ให้มาขอเดี๋ยวฉันให้” บอดี้การ์ดส่งยิ้มกวนๆมองเหล่าสมุนซมซานออกไป

สามวายร้ายกลับมาฟ้องอิทธิหาญ มาเฟียน้อยโกรธมากจะยิงลูกน้องทิ้ง แต่ปานห้ามไว้ แล้วชวนเจ้านายไปบ้านกันต์เพื่อดูหน้าญาติตัวแสบ

ไม่กี่นาทีต่อมา อิทธิหาญเดินนำปานและลูกน้องหน้าเดิมๆมาถึงหน้าบ้านกันต์ ซึ่งตอนนี้มืดสนิท เขาสั่งให้สมุนยิงปืนเรียกคนในบ้าน แต่ต้องชะงัก เมื่อแสงไฟจากสปอตไลต์ริมระเบียงชั้นสองสาดลงมา

“เสี่ยระวัง” ปานปราดเข้าคุ้มกัน

“ขอโทษทีแค่อยากติดไฟให้สว่าง” กันต์เลื่อนรถเข็นออกมาจากในบ้านอย่างใจเย็น

อิทธิหาญเจ็บใจถามหาหลานของกันต์หมายจะคิดบัญชี

“มีธุระอะไรกับฉันเหรอ” เนติมากับระบิลออกมายืนข้างกันต์

หญิงสาวนิ่งมองอิทธิหาญอย่างไม่กลัวเกรง พลางเหลือบมองปานด้วยความแค้น ในขณะที่อิทธิหาญกับปานก็ตะลึงเมื่อเห็นเนติมา ปานเองก็คาดไม่ถึงว่าจะพบระบิลน้องชายของเพื่อนรักเช่นกัน ภาพความผูกพันในอดีตผุดขึ้นมา ทำให้ปานไม่กล้าทำอะไรระบิล

อิทธิหาญโวยลั่น เมื่อปานยังยืนนิ่ง ระบิลส่งยิ้มกวนๆ พลางท้าทายว่า ทุกการกระทำของอิทธิหาญกับพวกถูกบันทึกไว้เป็นหลักฐานหมดแล้ว ปานกวาดตามองไปรอบๆ แล้วชี้ให้เจ้านายดูกล้องวงจรปิด

“แล้วไม่ต้องห่วงนะ ว่าจะเก็บภาพพวกแกไม่ได้ทุกมุม โน่นๆในบ้านก็มีอีกหลายตัว” ระบิลชี้ไปทั่ว อิทธิหาญกับพวกมองตามด้วยความระแวง

บอดี้การ์ดยิ้มสะใจ หันไปยัดปืนใส่มือเนติมาให้ถือเล็งไปที่พวกอิทธิหาญ สาวเจ้าตกใจกลัว แต่จำต้องทำเข้มใส่ ขณะที่ระบิลหันไปสาธยายเหมือนขายของทีวีไดเร็คกับพวกอิทธิหาญ “และพิเศษสุดสำหรับวันนี้ กริยาทรามๆของนายทุกช็อตจะถูกถ่ายทอดไปยังสถานีตำรวจ เพียงฉันกดปุ่มนี้” พ่อหนุ่มหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนขึ้นมาแล้วกดเปิดหน้าจอกดปุ่ม ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน

อิทธิหาญครุ่นคิดอย่างสับสน ก่อนตวัดปลายปืนมาทางเนติมา ระบิลรีบคว้าปืนจากมือเนติมาขึ้นมาเล็งไปที่อิทธิหาญอย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่ทั้งหมดต้องชะงักเมื่อมีรถตำรวจวิ่งเปิดไซเรนเข้ามา

เนติมาหันไปมองระบิลด้วยความสงสัย ชายหนุ่มกระซิบ “อย่าถามผม ผมก็งงเหมือนคุณนั่นแหละ”

ผู้กำกับวิเชษฐ์กับลูกน้องกรูกันลงมาจากรถ แล้วกระจายกำลังล้อมอิทธิหาญกับพวกอย่างรู้งาน จังหวะหนึ่งผู้กำกับแอบสบตากับระบิลอย่างมีนัย ก่อนจะหันไปถามเนติมาและกันต์ว่าเกิดอะไรขึ้น สองอาหลานว่า คนพวกนี้ บุกรุกบ้านตน รบกวนคุณตำรวจเชิญกลับไปด้วย

ผู้กำกับพยักหน้ารับแล้วหันไปหาอิทธิหาญอย่างเอาจริง มาเฟียทำฮึดฮัดแต่ก็ยอมพาลูกน้องกลับไป

ครั้นเหล่าวายร้ายออกไปหมดแล้ว ระบิลกับวิเชษฐ์จึงโผเข้ากอดกันอย่างสนิทสนม เพราะวิเชษฐ์เป็นรุ่นพี่ของระบิล แถมเคยทำงานร่วมกันมาหลายครั้ง บอดี้การ์ดหนุ่มหันมาแนะนำให้สมาชิกในบ้านรู้จักพันตำรวจเอกวิเชษฐ์อย่างเป็นทางการ แถมบรรยายสรรพคุณจนเกือบหมดความเชื่อถือ เจ้าตัวต้องร้องห้าม ก่อนจะชี้แจงว่าตนถูกขอตัวให้มาประจำสถานีตำรวจท้องที่นี้ หลังจากโดนเด้งไปอยู่ชายแดน ด้วยข้อหาพาลูกน้องไปปิดบ่อนพงษ์เลิศ

“ต่อไปผมจะจัดสายตรวจเวียนมาดูแลความเรียบร้อยแถวนี้ให้บ่อยขึ้น พวกนั้นมันจะได้ไม่กล้าทำอะไรอย่างวันนี้อีก” วิเชษฐ์ให้ความมั่นใจ แต่เจือจันทร์ยังกังวล เธอว่าน่าจะจับอิทธิหาญกับพวกเข้าคุกไปเลย

“ทำอย่างนั้นผมว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ อย่าลืมว่านายพงษ์เลิศพ่อของอิทธิหาญยังมีพาวเวอร์มากอยู่นะคุณ”

“แค่เขารู้ว่าผมย้ายมาประจำที่นี่ ก็คงไม่พอใจมากอยู่ล่ะครับ”

“แหม อยากเห็นสภาพพ่อลูกคู่นี้จริงๆ ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง” ระบิลพูดยิ้มอย่างอารมณ์ดี เมื่อนึกถึงอิทธิหาญกับพงษ์เลิศ

ooooooo

ด้านพงษ์เลิศ เขาแทบกระอักเมื่อรู้ข่าวว่าคนที่ขอตัววิเชษฐ์กลับมาคือธำรง เขาหันมาบอกเรื่องนี้กับชลกร และอิทธิหาญ

มาเฟียน้อยร้อนใจ เร่งให้พ่อจัดการ เพราะธำรงกับเนติมาเริ่มลํ้าเส้นเข้ามาทุกทีพลางใส่ไฟ “ผมบอกหลายทีแล้ว ให้มันคุยกับลูกตะกั่วแหละง่ายดี ทำเหมือนที่เราเคยทำไม่กี่เปรี้ยงก็จบ

“ยัง...ฉันยังไม่อยากใช้วิธีของแก จนกว่าจะจำเป็นจริงๆ”

“แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่มันจะจบ พ่อฟังผมนะ นางเนติมานั่นมันต้องการล้างแค้นที่พ่อทำกับครอบครัว อีกหน่อยพวกมันต้องขุดคุ้ยปูมหลังของเรา มันต้องการเอาเราเข้าคุก นี่อย่าบอกนะว่าพ่อจะเจรจากับมัน”

“ถ้านั่นเป็นทางออกที่ดีกว่า ก็ควรทำค่ะ” ชลกรเอาใจพงษ์เลิศ

“เหอะ มันคงยอมหรอก” อิทธิหาญเย้ยหยัน พลางทุบโต๊ะด้วยความโมโห ขณะที่พงษ์เลิศนั่งถอนใจ

เวลาเดียวกัน ระบิลกับเนติมาออกมาส่งวิเชษฐ์ที่รถ หญิงสาวข้องใจถามผู้กำกับว่าทำไมถึงมาเร็วนักเพราะระบิลเพิ่งส่งภาพจากวงจรปิดไป วิเชษฐ์เป็นงงบอกว่าไม่เคยได้รับภาพอะไรจากระบิล แต่ที่มาวันนี้เพราะออกตรวจพื้นที่

“อ้าว...แล้วที่...” เนติมาหันขวับไปมองระบิล เห็นเขายิ้มลอยหน้าลอยตาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ก็ยิ่งหมั่นไส้

หลังจากวิเชษฐ์กลับไปแล้ว เนติมาลากระบิลกลับเข้าไปเล่นงานในบ้านโทษฐานหลอกเธอ แถมยังให้ถือปืนยืนขู่พวกอิทธิหาญอยู่นาน ทั้งๆที่กลัวแทบขาดใจ

“ผมรู้ว่าคุณทำได้ แววตาของคุณที่มองนายพงษ์เลิศเมื่อวาน กับมองเจ้าอิทธิหาญเมื่อกี้มันบอกความหมายทุกอย่างแล้ว” ระบิลจ้องตาเนติมานิ่ง หญิงสาวรู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูกจนต้องรีบหลบตา แล้วเปลี่ยนเรื่องสั่งให้บอกกันล่วงหน้าก่อน ว่าจะทำอะไร

“ผมจะพยายาม แต่คุณก็น่าจะรู้ ว่าเรื่องบางเรื่องมันก็เข้ามาหาเราโดยไม่ได้นัดหมายเหมือนกัน” เนติมาครุ่นคิดตามระบิลพูด เธอยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีพลางเอ่ยคำขอบคุณ

“มาแบบคุณศิวัชอีกคนแล้ว ขอบคุณผมซะสามเวลาหลังอาหาร ผมทำตามหน้าที่น่ะคุณ คุณไปพักผ่อนเถอะครับ พรุ่งนี้เรายังมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะ” ระบิลพูดพลางดันหลังเนติมาให้ขึ้นไปนอน

“อ้าว แล้วนายล่ะ ไม่นอนเหรอ” เนติมาหันมาถาม

ระบิลไม่ตอบ กลับเดินไปนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์และง่วนอยู่ตรงนั้นจนดึก

กระทั่งตีสองแล้ว เนติมาลงมาเห็นระบิลยังนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอสงสัยว่าบอดี้การ์ดทำอะไรอยู่กันแน่ จึงย่องมาดู ระบิลกำลังจูนคอมพิวเตอร์กับกล้องวงจรปิดเอ่ยทักนายสาวโดยไม่หันหน้ามา แถมคุยว่า ตนเช็กกล้องทุกตัวเรียบร้อยหมดแล้ว คราวนี้ยุงสักตัวก็อย่าได้รอดสายตา

“เว่อร์...ไหนดูสิ” เนติมาขยับเข้ามานั่งข้างๆระบิล แล้วขอเรียนรู้การทำงานของกล้องตามจุดต่างๆด้วย ทำให้ทั้งสองยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้น

วันรุ่งขึ้น เนติมาลงมาเห็นระบิลนั่งเช็ดปืนอยู่ในห้อง เธอขอร้องให้เขาสอนยิงปืน อ้างว่าจะเอาไว้ป้องกันตัว แต่ระบิลว่ายังไม่ถึงเวลา แล้วรีบตัดบทชวนออกไปที่ทำการพรรค เพราะวันนี้ธำรงนัดคุยตัวแทนพรรคการเมืองที่จะร่วมสัตยาบัน ฟอร์มรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง

ooooooo

ในตอนบ่าย หลังประชุมเสร็จ ศิวัชนำทีมงานออกหาเสียงต่อ โดยมีเนติมากับระบิลติดตามไปด้วย ขณะที่ทุกคนกำลังสนใจอยู่กับศิวัช ดลกับอ้อก็เดินเถียงกันออกมาจากร้านอินเตอร์เน็ตแถวนั้น เพราะอ้ออยากจะไปทำงานพริตตี้เพื่อหาเงินมาช่วยดล

“ไม่ เราคุยเรื่องนี้กันหลายครั้งแล้วนะอ้อ” ดลหันมาดุ

“ก็ได้ๆไม่ช่วยก็ได้ เออ แล้วเมื่อกี้พี่ดลจดข้อมูลเรื่องเรียนมาได้เยอะรึเปล่าจ๊ะ”

“เยอะ แล้วยังได้อย่างอื่นเป็นของแถมมาด้วยนะ ตารางหาเสียงของพรรคสยามพัฒนา” ดลยิ้มพลางหยิบสมุดจดมากาง เด็กสาวสนใจถามพี่ชายว่า จะไปสมัครงานหรือ แล้วพลันนึกขึ้นได้

“อุ๊ย...อย่าบอกนะว่าพี่ดล”

“เนี่ย จะเป็นทางหนึ่งที่จะทำให้พี่เจอ...” ดลส่งยิ้ม แต่ไม่ทันจะพูดต่อ ก็ได้ยินเสียงทีมงานของศิวัชพูดผ่านเครื่องขยายเสียงดังแว่วมา “สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง พรรคสยามพัฒนา ขอเสนอตัวเป็นทางเลือกที่ดีกว่าให้ประชาชน วันนี้คุณศิวัช กิตติธร เสนอตัวมารับใช้

พี่น้องประชาชน เพื่อนำพาความสุขกลับมาสู่ทุกชีวิตในประเทศนี้แล้วครับ”

ดลกับอ้อหันไปมอง เห็นรถหกล้อหาเสียงของศิวัชวิ่งสวนมาช้าๆในฝั่งถนนตรงข้าม มีศิวัชและทีมงานยืนโบกไม้โบกมือให้กับประชาชน และหนึ่งในนั้นมี

เนติมาอยู่ด้วย ดลจำพี่สาวได้รีบวิ่งไปหาและตะโกนเรียก

“พี่เนติ์...พี่เนติ์”

เนติมาได้ยินเสียงน้องแว่วๆ เธอหันไปมองด้านนอกรถ แต่ไม่สะดวกนักเพราะทีมงานยืนบังอยู่

“อะไรคุณ” ระบิลร้องถาม

“เหมือนมีใครเรียกฉันก็ไม่รู้”

ระบิลพยายามมองตามเนติมาออกไปข้างถนน เห็นมีแต่ประชาชนออกมาให้กำลังใจ

อ้อเห็นรถหาเสียงเคลื่อนตัวออกไปแล้ว คิดว่าดลคงตามไม่ทันแน่ จึงวิ่งไปหาเขาพร้อมแนะนำให้ไปหาที่ที่ทำการพรรค ดลคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพาอ้อไปยังพรรคสยามพัฒนา เขาทำทีเป็นขอสมัครงาน แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าเต็มหมดแล้ว หนุ่มน้อยพยักหน้าเข้าใจ พลางถามหาศิวัชกับเนติมา

“โอ๊ย เข้ามาแล้ว แล้วก็ออกไปตั้งนานแล้วน้อง ไปหาเสียงต่อที่นครนายก น้องมีอะไรจะร้องเรียนเหรอ”

“เออ...คือว่าพี่ดลเนี่ย” อ้อกำลังจะพูดว่าดลเป็นน้องชายของเนติมา แต่เขารีบคว้ามือเธอไว้ก่อนเป็นการเตือนแล้วพาเดินออกไป

“คือ พี่ยังไม่อยากให้เรื่องของพี่กับพี่เนติ์เป็นที่จับตาตอนนี้ มันจะเป็นอันตราย” ดลหันมาชี้แจง

“ว้า...เสียดาย อุตส่าห์ไปถึงพรรคแล้วเชียว แต่พี่เนติ์สวยเนอะ ดูเป็นผู้หญิงเก่งด้วย”

เรื่องราวที่เกิดขึ้น คงหล่อหลอมให้พี่เนติ์เป็นอย่างนี้ เหมือนกับที่หล่อหลอมให้พี่เป็นอย่างที่อ้อเห็นไง

“ให้พี่ดลเป็นฮีโร่ของอ้อ สู้ๆ” อ้อส่งยิ้มสดใสพลางเอื้อมมือไปกุมมือดล เพื่อให้กำลังใจ

ooooooo

วันต่อมา ศิวัชลงพื้นที่หาเสียงในต่างจังหวัด โชคไม่ดีเอาเสียเลย ฝนเทลงมาอย่างหนัก ทีมงานทำท่าจะถอย ศิวัชไม่ยอม สังให้ลุยเข้าไปพบชาวบ้านที่ยืนตากฝนรออยู่ เขาหันมาสั่งเนติมาให้รออยู่บนรถ แต่สาวเจ้าไม่ยอม เธอเดินลงไปเคียงข้างศิวัช ตามด้วยระบิลบอดี้การ์ดคู่ใจ

ศิวัชตากฝนไหว้ชาวบ้านที่มายืนรวมกลุ่มต้อนรับอยู่ที่เพิงทางเข้าหมู่บ้าน โดยมีเนติมากับระบิลยืนอยู่ข้างๆ สาวเจ้าส่งยิ้มทักทายชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง ขณะที่ระบิลถูกชาวบ้านสาวๆหลายคนดึงเข้าไปหอมแก้ม

ระหว่างรอศิวัชเข้าไปฟังเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน เนติมานั่งกอดอกสั่นด้วยความหนาว แต่เมื่อคนรักหันมามอง เธอก็ฝืนทำตัวให้เป็นปกติพลางยิ้มกลบเกลื่อน ระบิลลอบมองนายสาวด้วยความเป็นห่วงและคอยตามประกบไม่ห่าง

ภารกิจเสร็จสิ้น ทุกคนมารวมตัวกันที่หน้าที่ทำการพรรค ระบิลคุยว่า งานนี้สายฝนกลายเป็นตัวเสริมให้ศิวัชซื้อใจชาวบ้านได้เต็มๆ ศิวัชยิ้มรับพลางแซวว่า ระบิลก็ใช่ย่อยเพราะมีแววทางการเมืองเหมือนกัน และถ้าสนใจตนจะบอกพ่อให้

“โอ๊ยๆ รักกันจริงไม่ต้องชงเรื่องให้เลยนะครับ ขอผมอยู่ของผมอย่างนี้เถอะ เชื่อสิ ผมไม่เหมาะกับการเมืองหรอกครับ”

“โอเคๆได้ งั้นเดี๋ยวเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแห้งๆ กันก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะไม่สบาย เดี๋ยวพี่ให้แม่บ้านหาเสื้อยืดของพรรคให้เนติ์ใส่นะ” ศิวัชหันมาบอกคนรักแล้วขยับจะเดินต่อ แต่ปฏิพรเดินยิ้มร่าเข้ามา ในมือมีผ้าขนหนูและเสื้อผ้าของศิวัชที่รีดเรียบร้อยถือออกมาด้วย

“พี่ศิวัช ตายจริง ผมยังไม่แห้งอีกเหรอคะเนี่ย มาค่ะเดี๋ยวตี้จะเช็ดให้” ปฏิพรเช็ดผมให้ศิวัชอย่างไม่แคร์สายตาใครๆ ศิวัชพยายามหลบเลี่ยงพลางร้องห้าม

“เออ...ไม่ต้อง...ไม่ต้อง”

“ไม่ต้องได้ไงคะ เดี๋ยวไม่สบายขึ้นมาว่าไง ดีนะคะที่ตี้ฟังข่าวว่าพื้นที่ที่พี่ศิวัชไปหาเสียงฝนตกหนัก ตี้เลยอาสาคุณอาเอาชุดมาเปลี่ยนให้ แปลกนะคะเราสองคนเจอกันทีไร ต้องมีเรื่องให้เปียกปอนกันทุกทีเลย” ปฏิพรหัวเราะร่วนทำเป็นไร้เดียงสา แล้วแอบสังเกตเนติมาเห็นเธอเบือนหน้าหนีก็ยิ่งได้ใจ ชวนศิวัชไปดินเนอร์กันต่อแถมอ้างว่าธำรงโทร.จองโต๊ะให้แล้ว

ศิวัชหน้าเจื่อนหันมามองเนติมา เพราะไม่กล้าขัดใจพ่อ สาวเจ้าเข้าใจจึงขอตัวกลับ

ครั้นออกรถมาได้สักพัก ระบิลก็หันไปชวนเนติมาคุยเรื่องศิวัชหวังจะให้นายสาวสบายใจ แต่เนติมาตัดบทว่า เธอเหนื่อย พลางปรับเบาะลงนอนด้วยความเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจ

ระบิลถอนใจมองเจ้านายด้วยเข้าใจความรู้สึก

เขาขับรถไปเงียบๆ จนกระทั่งถึงบ้านกันต์ จึงหันมาเรียกเนติมา เธอยังคงนอนหลับเหมือนไม่ได้ยิน

“คุณ...คุณ ถึงบ้านแล้ว” ระบิลผิดสังเกต เอื้อมมือไปแตะนายสาว พลันตกใจเพราะเธอตัวร้อนจัด

“เป็นเรื่องแล้ว” บอดี้การ์ดรีบถอยรถออกพาเจ้านายส่งโรงพยาบาล

ooooooo

เนติมานอนหลับอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าซีดเซียว ระบิลมองนายสาวด้วยความเป็นห่วง เขาตัดสินใจ จะโทร.บอกศิวัช แต่เนติมาลืมตาขึ้นมาพอดี เธอร้องห้ามเสียงแผ่ว

“ห้ามโทร.บอกพี่ศิวัชนะ แล้วก็ไม่ต้องบอกใครทั้งนั้น เพราะฉันไม่อยากให้ใครเป็นห่วง แม้กระทั่งนายก็เถอะ”

“เราเป็นเหมือนคู่บัดดี้กันแล้วนะคุณ จะไม่ให้ผมไม่เป็นห่วงคุณได้ยังไงล่ะครับ เอาล่ะ ผมสัญญาว่าจะไม่บอกใคร แต่คุณต้องนอนนะจะได้หายไข้เร็วๆ แต่ถ้าไม่ผมจะโทร.บอกทุกคนทันที” ระบิลยกมือถือขึ้นมาขู่

“นี่นายสั่งฉันเหรอ”

“อืม...ก็คนไข้คนนี้ท่าทางดื้อน้อยอยู่เมื่อไหร่ล่ะ ถ้าไม่อยากให้ใครเป็นห่วงก็อย่าดื้อนะครับ จะได้หายเร็วๆ” ระบิลพูดอย่างอบอุ่นพลางกระชับผ้าห่มให้อย่างเอาใจใส่

สักพักศิวัชโทร.เข้ามา เนติมาฝืนทำตัวให้สดชื่นบอกคนรักว่าถึงบ้านแล้วและกำลังจะเข้านอน เธอถาม

ชายหนุ่มว่าอยู่ไหน ศิวัชอึกอักจำใจโกหกว่าทานข้าวอยู่กับพ่อทั้งที่ความจริงอยู่กับปฏิพร เนติมาไม่ติดใจ เธอบอกคนรักว่าฝันดีแล้วกดวางสาย ก่อนไอออกมาอย่างหนัก

“ไหวไหมคุณ” ระบิลรีบเข้าไปดูอาการพลางต่อว่าที่เธอเล่นละครหลอกศิวัช

“นายเคยมีความรักใช่ไหม” เนติมามองระบิลเห็นเขาพยักหน้ารับ “ถ้านายรักใครสักคน นายจะยอมทำทุกอย่างรึเปล่า ที่จะทำให้คนรักมีรอยยิ้ม ถึงตัวเองจะเจ็บป่วยแค่ไหนก็ตาม”

“ใช่ ผมทำได้ทุกอย่าง เพื่อคนที่ผมรัก” ระบิลพูดเสียงอ่อน สะท้อนความรักของตัวเอง

“คราวนี้นายเข้าใจฉันแล้วใช่ไหม” เนติมายิ้มอย่างอ่อนแรงก่อนค่อยๆหลับตาลง

ระบิลเอื้อมมือไปกระชับผ้าห่มให้เจ้านายอย่างเอาใจใส่และเข้าใจความรู้สึก

เช้าวันใหม่ ระบิลโทร.มาขอความช่วยเหลือจากวิเชษฐ์ ให้เข้าไปดูแลบ้านกันต์แทน เพราะเนติมายังอยู่โรงพยาบาล รุ่นพี่ใจดีรีบรับปาก แล้วรีบบึ่งไปบ้านกันต์

ผู้กำกับหนุ่มจอดรถไว้หน้าบ้านเพื่อข่มขวัญพวกอิทธิหาญ ทำให้เหล่าสมุนพากันผวาด้วยกลัวถูกจับ พวกมันวิ่งมาบอกปานและจะเข้าไปรายงานอิทธิหาญที่นอนกกสาวอยู่ในห้อง ปานร้องห้าม เพราะเชื่อว่าไม่มีตำรวจคนไหนกล้าเล่นกับเสี่ย แล้วไล่ลูกน้องออกไปให้พ้นหน้า เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าตำรวจมาบ้านกันต์ทำไม

ooooooo

วิเชษฐ์เดินตามเจือจันทร์เข้าไปคุยกับกันต์ในบ้าน เขาเห็นขวัญชนกลอบมองตรงช่องหน้าต่าง กันต์บอกว่าเธอเป็นลูกสาว พลางเล่าเรื่องขวัญชนกให้ฟัง

อ่านละครย่อ หงส์สะบัดลาย ตอนที่ 3 วันที่ 16 ส.ค. 55
ละครเรื่อง หงส์สะบัดลาย บทประพันธ์โดย : ช่อมณี
ละครเรื่อง หงส์สะบัดลาย บทโทรทัศน์โดย : สถาพร สุชาติ
ละครเรื่อง หงส์สะบัดลาย กำกับการแสดงโดย : วีระชัย รุ่งเรือง
ละครเรื่อง หงส์สะบัดลาย ติดตามชมทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ

อ่านละครหงส์สะบัดลาย ตอนล่าสุดที่นี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความละครย่อTVตอนล่าสุด