@. อ่านละครทีวี.@

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 4-5 วันที่ 3 ส.ค. 55

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 4

“ลูกลืมไปแล้วหรือว่านี่มันเป็นยุคของคลิปหลุด นี่ต่างหากที่จะทำให้เหยื่อของเรา อึ้ง ทึ่ง เสียว” ศักดิ์ชายถามว่าแล้วตนจะไปเอาคลิปที่ไหนในเมื่อตนไม่ได้ทำอะไรณดาจริงๆ “คลิปจะมีไม่มีน่ะไม่สำคัญเท่ากับการทำให้เขาเชื่อว่ามันมี เข้าใจไหมลูก”

พอถูกแม่เสี้ยมเข้าหน่อย ศักดิ์ชายก็มั่นใจ ดังนั้นเมื่อเห็นณดายังห่วงใยและมีใจให้ต๋องตำตาเมื่อครู่นี้ เขาจึงตามเธอไปที่รถ ขู่บังคับให้เธอขึ้นรถไปกับตน มิเช่นนั้นจะแฉเรื่องระหว่างเรา ณดาจึงจำต้องขึ้นรถไปด้วย

ระหว่างนั่งรถไปด้วยกัน ณดาพูดอย่างรังเกียจว่า คนอย่างเขาไม่เคยอยู่ในสายตาตน ทำให้ศักดิ์ชายแค้นใจที่โดนหยาม พูดอย่างหมายมาดว่า

“ถ้าผมไม่ได้คุณ ก็อย่าหวังว่าผู้ชายคนไหนจะได้”

ศักดิ์ชายพาณดาไปนั่งในร้านไอศกรีมบรรยากาศหวานแหวว แล้วทำเป็นเอาคลิปออกมาดู บอกว่ามาระลึกความหลังทำเป็นดูแล้วซี้ดปากพึมพำ...

“อูยยยย...ช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มพอดี ดูซิ...ใครจะเชื่อว่าคุณจะไม่รู้สึกตัวเลยขนาดนี้”

ศักดิ์ชายจะดึงณดาไปนั่งดูด้วยกัน เธอสะบัดมืออย่างรังเกียจ เอานํ้าสาดหน้าเขาแล้วลุกเดินออกไป

“แล้วคุณจะรู้จักความเลวของผมดีกว่านี้...ณดา” ศักดิ์ชายมองตามคำรามอย่างหมายมาด

ooooooo

ที่บ้านกิมฮวย เคี้ยงกำลังเอาเงินปึกใหญ่ซ่อนไว้ในช่องลับใต้ตู้เสื้อผ้า ซ่อนเสร็จก็พอดีกิมฮวยพากิมลั้ง กลับมาถึง เคี้ยงรีบทำท่าปกติถามว่าทำไมวันนี้กลับแต่วันเลยล่ะ

กิมฮวยด่ากิมลั้งให้เคี้ยงฟังว่า ลูกสาวทำงามหน้า ไปยืนจับมือจู๋จี๋กับต๋องอยู่หลังตลาด เคี้ยงติงว่าความจริงลูกจะรักใครก็ปล่อยไป ทีตัวกิมฮวยเองยังเลือกตนแทนที่จะยอมแต่งงานกับคนที่ป๊ากับม้าเลือกให้เลย

แทนที่กิมฮวยจะได้คิด กลับด่าเคี้ยงว่าเพราะคิดผิดตอนนั้นถึงได้ชีชํ้าตอนนี้ไง เคี้ยงหยุดทันทีเพราะขืนพูดมากมีหวังโดนด่ายาว ถามกิมฮวยว่าแล้วคิดจะทำอย่างไร

กิมฮวยบอกว่าต้องตัดไฟแต่ต้นลม กิมลั้งตกใจถามว่าแม่จะทำอะไร กิมฮวยบอกว่าเดี๋ยวจะเรียกเต็กไฮ้มาคุยเรื่องหมั้นของสองคน กิมลั้งช็อก ปฏิเสธเสียงหลงว่าตนไม่หมั้นกับจาตุรงค์เด็ดขาด

“งั้นลื้อก็ขาดกับอั๊วตั้งแต่วันนี้” กิมฮวยเดินปึงปังเข้าบ้าน กิมลั้งเรียกแม่อย่างตกใจ ได้ยินเสียงกิมลั้งเรียกกิมฮวยก็รู้ว่าคำขู่ของตนได้ผล

หลังจากนั้น กิมฮวยเรียกจะเด็ดมาหาฤกษ์หมั้น จะเด็ดบอกว่าต้องหมั้นอาทิตย์หน้า หากเลยจากนี้ไปต้องรออีกสองสามปี กิมฮวยตกลงหมั้นอาทิตย์หน้าเลย

กิมแชทนไม่ได้ตามหาต๋องจนเจอเล่าเรื่องแม่จะจัดงานหมั้นกิมลั้งกับจาตุรงค์อาทิตย์หน้า ต๋องบอกว่าจะไม่ยอมให้ใครมาฉกแฟนตนไปเด็ดขาด รักเร่ถามว่าแล้วจะทำยังไง

“ก็...” ต๋องทำท่าคิดหนัก แล้วก็โพล่งออกมาว่า “ยังไม่รู้โว้ย” พรรคพวกเลยเหี่ยว จ๋อยไปตามกัน

ooooooo

กิมลั้งคิดหนักจนเก็บไปฝันร้ายว่าตนต้องเข้าพิธีหมั้นกับจาตุรงค์ทั้งนํ้าตา แต่แล้วก็ดีใจสุดขีดเมื่อต๋องบุกเข้าไปฉุดตนกลางงานพิธีพาขึ้นรถซาเล้งที่แต่งเป็นรถแต่งงานพาหนี

แต่แล้วกิมลั้งก็ตกใจสะดุ้งตื่นเหงื่อแตกพลั่ก เมื่อจาตุรงค์ขับรถไล่ตามไปยิงต๋องตกจากรถนอนเลือดท่วมตัว!

ตื่นจากฝันร้าย กิมลั้งหน้าตาซีดเซียว ถูกกิมแชเร่งให้รีบไปแต่งตัวเตรียมเข้าพิธีหมั้น

แขกเหรื่อเริ่มทยอยกันมาร่วมงาน เต็กไฮ้บอกกิมฮวยว่า ตนใจไม่ดีเลยกลัวต๋องจะมาป่วนงาน

“ไม่ต้องห่วงหรอก มันจะกล้าโผล่มาให้โดนประชาทัณฑ์ก็เอา” กิมฮวยพูดอย่างสบายใจ แล้วรีบออกไปต้อนรับอาแปะคนหนึ่งที่มาในงาน พออาแปะเดินเข้าบ้านแล้ว ลักษณ์ถามกิมฮวยว่าญาติหรือ กิมฮวยร้องอ้าวนึกว่าญาติของลักษณ์เสียอีก เคี้ยงเลยตัดบทว่าคงเป็นคนแถวนี้รู้ข่าวเลยมาแสดงความยินดีด้วย

หารู้ไม่...อาแปะคนนี้คือต๋องปลอมตัวมานั่นเอง!

งานนี้ นอกจากกิมลั้งต้องฝืนใจเข้าพิธีแล้ว กิมแชเองก็แอบนํ้าตาคลอ เมื่อมีแขกให้ร้องเพลงโชว์ก็ปฏิเสธ จนกิมฮวยต้องออกไปกล่อมแกมบังคับให้ร้องเพราะแขกอยากฟัง สั่งให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาร้องเพลงเสียดีๆ

ไม่นานนัก กิมแชในชุดกี่เพ้าสวยงามก็แหวกม่านออกมาร้องเพลง แขกในงานพากันอึ้งกับนํ้าเสียงไพเราะของเธอและยิ่งเมื่อแสงไฟส่องไปที่ตัวก็ยิ่งทำให้กิมแชสวยจนแม้แต่จาตุรงค์เองก็ยังมองอึ้งจนปล่อยมือกิมลั้งที่กุมอยู่อย่างไม่รู้ตัว

ooooooo

แปะต๋องโฉบเข้าไปใกล้กิมลั้งขณะเธอยืนเศร้าอยู่ พูดว่า “เดี๋ยวมันก็ผ่านพ้นไป” แล้วเดินผ่านไปเลย

ทั้งณดาและศักดิ์ชายมาร่วมงานด้วย ศักดิ์ชายพูดให้บาดใจณดาว่า การที่จาตุรงค์หมั้นกับกิมลั้งเท่ากับเธอหมดเสี้ยนหนามหัวใจไปคน ณดายิ้มเยาะย้อนถามว่า ถ้าตนจะคิดอย่างนั้นมันผิดตรงไหนหรือ ศักดิ์ชายฉุน ถามว่าแล้วเธอเอาตนไปทิ้งไว้ที่ไหน

“อย่าเรียกว่าทิ้งเลย เพราะฉันไม่เคยหยิบคุณขึ้นมาเลยสักครั้ง” พูดใส่หน้าแล้วเดินไปเลย

“คิดว่าอะไรๆ มันจะง่ายอย่างนั้นหรือ” ศักดิ์ชายมองตามแค้นๆ

ooooooo

ในงานนี้เอง แปะต๋องได้ยินจาตุรงค์ตำหนิพนักงานเสิร์ฟน้ำว่า ตกลงงานนี้ไม่มีน้ำให้เจ้าบ่าวกินสักแก้วหรือ แปะต๋องจึงเอาน้ำไปให้แก้วหนึ่ง พร้อมกับแสดงความยินดีและอวยพร พอเดินห่างออกมา แปะต๋องก็แอบดูขวดยาดองเล็กๆ ในกระเป๋ายิ้มๆเจ้าเล่ห์พึมพำ

“เจอยาดอง ‘ม้าดีดกะโหลกช้าง’ สูตรบ้านไอ้ต๋องเข้าไป...ไม่รอดแน่”

แต่แล้วแปะต๋องก็ตกใจ เมื่อเห็นจาตุรงค์ถือแก้วน้ำ ไปให้กิมลั้งที่ซับเหงื่ออยู่ดื่ม แปะต๋องเดินอ้าวไปชนกิมลั้งจนน้ำหกใส่ชุด

แปะต๋องรีบขอโทษขอโพย กิมลั้งบอกว่าไม่เป็นไร แล้วขอตัวไปเปลี่ยนชุด

พอกิมลั้งเดินไป แปะต๋องก็รีบกุมมือจาตุรงค์พูดอย่างไม่สบายใจว่า

“อั๊วขอโทษนะอาจาตุรงค์ เดี๋ยวนี้ตามันฝ้าฟางเลยมองไม่ค่อยเห็นอะไร”

“น้องเขาบอกแล้วไงครับแปะ ว่าไม่เป็นไร”

“กำเสี่ย...กำเสี่ย...ลื้อสองคนนี่ งามทั้งหน้า งามทั้งใจ สมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก เกิดมาเพื่อกันและกันโดยแท้”

“ขนาดนั้นเลยเหรอแปะ” จาตุรงค์ยิ้มชอบใจ

“ก็ใช่น่ะสิ ไปๆเพื่อเป็นการไถ่โทษ เดี๋ยวอั๊วหาน้ำให้ลื้อใหม่ดีกว่า” จาตุรงค์บอกว่าไม่เป็นไร แปะต๋องทำหน้าผิดหวังถามว่า “แสดงว่าลื้อไม่ให้อภัยอั๊ว...อั๊วชีช้ำ...” แปะต๋องทำท่าจะร้องไห้ จาตุรงค์จึงยอมไปด้วย แปะต๋องแอบยิ้มดีใจรีบลากเขาไปทันที

ooooooo

ไปถึงอีกมุมหนึ่งในงาน จาตุรงค์นั่งรอแปะต๋อง ครู่หนึ่งแปะก็เดินกลับมาพร้อมกับน้ำสองแก้ว ยื่นให้เขาแก้วหนึ่งเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า

“เอ้า...ฉลองกันหน่อย...แด่ว่าที่เจ้าบ่าวที่น่าอิจฉาที่สุดในปฐพี”

จาตุรงค์ยกแก้วขึ้นอย่างชอบใจในคำเยินยอ ทั้งคู่ชนแก้วกันกริ๊ง...แต่แล้ว จู่ๆจาตุรงค์ก็ยื่นแก้วของตัวเองไปจ่อตรงหน้าแปะต๋องเหมือนจะป้อนให้ แปะต๋องชะงักกึก จาตุรงค์มองหน้าแปะยิ้มพลางเอ่ยขอว่า

“วันนี้วันดี...ดื่มให้ผมเป็นเกียรติก็แล้วกันนะแปะ”

“แหม...ถ้าให้เกียรติมันต้องมันส์กว่านี้” แปะต๋องพลิกสถานการณ์ ยื่นมือที่ถือแก้วไปข้างหน้าจาตุรงค์บ้าง พริบตานั้นก็ตวัดมือกลับมาเป็นคล้องแขนจาตุรงค์ เพื่อตนจะได้ดื่มจากแก้วตัวเอง จาตุรงค์เลยจำต้องทำตาม โดยปริยาย

แปะต๋องรอดตัวได้หวุดหวิด มองจาตุรงค์ที่ดื่มน้ำแก้วนั้น ยิ้มร้าย...สะใจ...

ooooooo

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 5

เลื่อนกับรักเร่ตามไปซุ่มสังเกตการณ์อยู่ เห็นต๋องไปคุยตีสนิทกับจาตุรงค์ก็แปลกใจว่าต๋องจะพังงานนี้ได้อย่างไร แต่เลื่อนก็ยังเชื่อมั่นว่า ระดับต๋องรับรองว่าทำอะไรต้องไม่ธรรมดาแน่

หลังจากใช้ชั้นเชิงและเชาวน์ไวทำให้จาตุรงค์ดื่มน้ำผสมยาดองม้าดีดกะโหลกช้างเข้าไปแล้ว แปะต๋องก็ยืนคอยยาออกฤทธิ์อย่างกระหยิ่ม

ครู่เดียวก็เห็นจาตุรงค์วิ่งท่าควบม้า ปากก็ร้อง “ฮี้... กับๆ ฮิกับ...ฮิกับ...” ท่าทางม้าจาตุรงค์คึกคะนองเต็มที่ แต่ทำเอาทุกคนในงานตกใจมาก จาตุรงค์ควบเป็นม้าขึ้นไปบนเวที ใช้เชือกในมือหวดตวัดไปมาเหมือนหวดแส้

กิมฮวย เคี้ยง เต็กไฮ้ และลักษณ์ วิ่งออกมาดูอย่างตกใจ

“กิมลั้ง” จาตุรงค์ร้องเรียกแล้วเดินไปหา แต่เดินเลยกิมลั้งไปหากิมแชที่ยืนอยู่ข้างหลัง ลากกิมแชขึ้นไปร้องเพลง เต็กไฮ้พยายามเรียกลูกชายให้ได้สติ แต่ถูกจาตุรงค์ผลักกระเด็น แล้วบอกกิมแชว่าวันนี้เราต้องร้องเพลงให้แขกผู้มีเกียรติฟังด้วยกัน เป็นคนเสนอเพลง “นกเขาคูรัก” เอง

กิมแชจำต้องร้องเพลงคู่กัน แขกที่มาในงานพากันชอบใจ แปะต๋องที่ยืนดูอยู่ก็หัวเราะชอบใจกับความคึกของจาตุรงค์

เลื่อนบอกรักเร่ที่ยืนดูอยู่ด้วยกันว่า “ข้าบอกแล้วไง ระดับพี่ต๋อง ต้องไม่ธรรมดา”

เคี้ยงร้อนใจถามเต็กไฮ้ที่ยืนเหวออยู่ว่าจะเอา อย่างไรดี กิมฮวยแหวใส่ว่าจะทำอะไรสักอย่างกันไหมเนี่ย ในขณะที่บนเวทีก็ยังร้องเพลง “นกเขาคูรัก” กันอย่างได้อารมณ์

จนเพลงท่อนสุดท้าย จาตุรงค์ร้อง “พี่ต้องเอาอย่างมัน...” แล้วเชยคางกิมแชจะจูบ กิมแชตกใจยืนตัวแข็งทื่อ

ขณะที่ปากจาตุรงค์กำลังจะสัมผัสปากกิมแชนั่นเอง เต็กไฮ้ก็พุ่งพรวดเข้าไปกระชากขาจาตุรงค์อย่างแรง เขาเสียหลักร่วงลงจากเวทีหัวน็อกพื้นสลบคาที่

ท่ามกลางความตกใจแตกตื่นของแขกในงาน...

แปะต๋องค่อยเดินเลี่ยงไปอย่างใจเย็น

ooooooo

แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือต๋องยังมีลุงชวนชมและกิมฮวย ทั้งสองรู้ทันแผนการของต๋อง พอต๋องเดินออกมา ลุงชวนชมถามว่าเสร็จเรื่องก็จะชิ่งเลยเหรอ

ต๋องตกใจถามว่าลุงรู้หรือ ลุงชวนชมบอกว่าเรื่องบัดสีบัดเถลิงแบบนี้ตนจมูกไวอยู่แล้ว ต๋องโต้ว่าตนมาขัดขวางงานหมั้นที่ขโมยแฟนตนมันผิดตรงไหน

“เอ็งก็ดีแต่โทษคนอื่นล่ะวะ เอ็งเคยใช้กะลาหัวคิดดูบ้างไหมว่า ทำไมกิมฮวยถึงไม่ยอมยกลูกสาวให้เอ็ง” ต๋องอ้างว่าเพราะกิมฮวยเกลียดตน ลุงชวนชมย้อนถามว่า “แล้วไง...แทนที่จะหาทางชนะใจเขา ทำให้เขาเห็นว่าเอ็งคู่ควรกับกิมลั้งยังไง เอ็งก็เลือกใช้วิธีแย่ๆ แบบที่เขาคิดว่าเอ็งเป็นน่ะเหรอ งั้นข้าก็ว่ากิมฮวยคิดถูกแล้วล่ะ ที่ไม่ยกลูกสาวให้ผู้ชายอย่างเอ็ง”

“ลุงไม่มีวันเข้าใจฉันหรอก”

“ไม่ต้องมาตีหน้าเศร้า เอ็งน่ะต้องเข้าใจคนอื่น

ไม่ใช่ให้คนอื่นเข้าใจเอ็งเว้ย” ลุงชวนชมว่าแล้วเดินไปเลย

ต๋องอึ้งไปครู่หนึ่งจึงเดินแยกไปอีกทาง ขณะถอดชุดอาแปะออกซุกไว้ในซาเล้งเตรียมกลับ ก็ถูกกิมฮวยตะคอกถามว่า

“ดีใจไหมล่ะที่งานมันพังลงได้” กิมฮวยพูดอย่างรู้ทันว่าต๋องมาวนเวียนอยู่แถวนี้เพื่อดูความพินาศของงาน ชี้หน้าด่าว่า “ลื้ออย่าคิดนะว่าจะมีโอกาสมีหวังกับอากิมลั้งอีก อั๊วไม่มีทางยอมให้ลื้อลงเอยกับอากิมลั้งเด็ดขาด!”

“ไอ้ที่น้าทำๆไป เคยถามลูกสาวสักคำไหมว่าต้องการรึเปล่า น้าไม่ได้ทำร้ายฉันคนเดียวหรอกนะ แต่น้ากำลังทำร้ายหัวใจของกิมลั้งด้วย หรือว่านี่เป็นวิธีแสดงความรักของน้า”

กิมฮวยโต้ว่าไม่มีใครที่จะรักกิมลั้งมากไปกว่าตนหรอก ต๋องสวนไปทันทีว่า ถึงตนจะรักกิมลั้งไม่เท่ากับคนที่เป็นแม่ แต่ในฐานะคนรัก ตนทำทุกอย่างให้กิมลั้งได้

“ไม่จริง ลื้อไม่ได้รักอากิมลั้ง ลื้อก็แค่อยากได้ลูกสาวอั๊วไปเป็นของลื้อ ต้องการให้อีทำให้ลื้อมีความสุข ทำให้ลื้อมีกำลังใจสู้ชีวิต ลื้ออยากได้อีก็เพื่อตัวลื้อเองทั้งนั้น ลื้อมันเห็นแก่ตัว” ต๋องพยายามจะเถียงว่าไม่ใช่ กิมฮวยขัดขึ้นว่า “ใช่สิ เพราะถ้าลื้อรักอีจริง ลื้อต้องปล่อยให้อีไปมีชีวิตที่ดี ที่มีอนาคตกว่าจมปลักอยู่กับคนอย่างลื้อ อาจาตุรงค์น่ะไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่สุดสำหรับอากิมลั้งหรอก แต่อีคือคนที่จะดูแลกิมลั้งต่อไปได้ในวันที่ไม่มีอั๊วแล้ว”

ต๋องมึนตื้อเถียงไม่ออก กิมฮวยหันหลังกลับไปแล้ว ต๋องยังยืนหลอนอยู่กับคำพูดของกิมฮวย...

ooooooo

เมื่อจาตุรงค์ยังต้องนอนโรงพยาบาลเช่นนี้ ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรต่อไป กิมฮวยเสนออย่างถอดใจว่า รอให้จาตุรงค์หายก่อนค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกัน

กิมลั้งโล่งใจที่งานวันนี้ล่มเสียได้ แต่ก็หยอกน้องสาวว่า ถ้างานไม่ล่มอาจกลายเป็นงานหมั้นของกิมแชไปก็ได้ ทำเอากิมแชที่ยังเคลิ้มกับอารมณ์หวิวที่เกือบถูกจาตุรงค์จูบ ตื่นเต้นตกใจจนเก็บอาการไม่อยู่พูดลนๆ ว่า

“อั๊วโล่งใจ ในที่สุด เจ้ก็ไม่ต้องหมั้นกับคนที่เจ้ไม่ได้รักยังไงล่ะ ถ้าพี่ต๋องรู้เรื่องวันนี้คงดีใจน่าดูเลยนะ”

ฝ่ายต๋อง ถูกทั้งลุงชวนชมตำหนิและกิมฮวยด่า กลับไปนั่งเศร้าที่ร้านขายของเก่า จนเลื่อนกับรักเร่แปลกใจว่า ไปล้มงานหมั้นสำเร็จมาแต่กลับทำท่าเหมือนคนอกหัก รักเร่บอกว่าต๋องอาจทำท่าแก้เคล็ดก็ได้

ที่หน้าร้านขายของเก่านั่นเอง พิตตี้พาดีเจนุ้ยและทีมงานมายืนเมียงๆ มองๆ บอกว่าที่นี่เป็นที่ที่ต๋องกับวงใช้ซ้อมเพลง เงี่ยหูฟังได้ยินเสียงเพลงแว่วออกมา พิตตี้บอกว่าไม่พลาดแน่ ให้ตามเข้าไปเลย

เข้าไปในร้านแล้วทั้งหมดยืนฟังจนต๋องซ้อมเพลงจบ ก็ปรบมือลั่น พวกต๋องหันมองงงๆ ว่าใคร? มาทำอะไร?

เมื่อพิตตี้พาดีเจนุ้ยกับทีมงานเข้าไปแนะนำตัวและบอกเล่าถึงจุดประสงค์ที่มาหาต๋องแล้ว ต๋องทวนอย่างไม่เชื่อหูตัวเองว่า “พี่จะเอาวงผมไปออกทีวี?!”

“ใช่ค่ะ...คือรายการไชโยโห่ฮิ้วของพี่เนี่ย จะมีช่วง ‘คนมีของ’ ที่เปิดโอกาสให้คนชอบโชว์ได้แสดงความสามารถ”

ดีเจนุ้ยเล่าว่า เมื่อคืนได้เห็นการแสดงของต๋องกับเพื่อนในยูทูบที่มีคนดูเป็นหมื่นในชั่วข้ามคืน เลยคิดจะเอาไปออนแอร์ในรายการแทนของเดิมที่เตรียมไว้ เห็นต๋องยังงงๆ ดีเจนุ้ยให้ความหวังว่า

“พี่คิดว่านี่เป็นโอกาสดีที่ต๋องกับเพื่อนจะได้เปิดตัวกับคนทั้งประเทศ รายการพี่น่ะเรตติ้งดีมากเลยนะ ตกลงว่ารับปากนะ” พวกต๋องตอบรับทันทีเป็นเสียงเดียวกัน ดีเจนุ้ยเลยนัดไปถ่ายในสตูดิโออันสวยเริ่ดของตน ต๋องเสนอว่า

“เอ่อ...พี่มาถ่ายพวกผมในตลาดแทนได้ไหมครับ” ดีเจนุ้ยไม่เห็นด้วยถามว่าตลาดสดจะสวยสู้สตูได้ยังไง ต๋องพูดหน้านิ่งจริงจังว่า “คือวงผมน่ะเกิดในตลาด ถ้าไม่เปิดตัวที่นี่แล้วมันจะไปมีความหมายอะไรล่ะครับ”

ooooooo

ดีเจนุ้ยขอกลับไปปรึกษากับทีมงานก่อน ระหว่าง นั้นต๋องก็ถูกเพื่อนร่วมวงบ่นกันเล็กน้อยว่าไปยื่นเงื่อนไขให้เขาปฏิเสธทำไม ถ่ายทำในสตูยังไงก็ต้องดีกว่าตลาดอยู่แล้ว

“พวกเอ็งน่ะไม่รู้อะไรเลยจริงๆ นี่น่ะเป็นโอกาสเดียวที่เราจะช่วยกู้ชื่อเสียงกลับมาให้ตลาดอีกครั้ง เพราะถ้าเราโปรโมตว่าวงเราน่ะเล่นประจำอยู่ในตลาด ถ้ามีคนชอบใจเขาก็จะตามมาดู ลองเหยียบมาถึงในตลาดแล้ว ใจคอเขาจะไม่ซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้างก็ประหลาดล่ะ”

ทุกคนเลยชมต๋องว่าฉลาด ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ แต่รักเร่ติงว่าแล้วทางรายการเขาจะเล่นด้วยหรือ

“แล้วเอ็งคอยดูไป” ต๋องตอบอย่างมั่นใจ พูดไม่ทันขาดคำก็ได้รับโทรศัพท์จากดีเจนุ้ยตอบตกลง นัดพรุ่งนี้เจอกันเลย ทุกคนเลยเฮกันลั่นด้วยความดีใจสุดๆ

ต๋องนัดณดาพบกันที่ร้านอาโกเพื่อบอกข่าวดีและขอความร่วมมือ ณดาดีใจขอบคุณต๋องที่ยังนึกถึงตลาดตลอดเวลา ทั้งที่เขาเองก็เพิ่งถูกคุณแม่ไล่ออกจากตลาดไปหยกๆ รับปากว่าจะประสานงานอำนวยความสะดวกให้เอง

ระหว่างกำลังติดต่อประสานงานยุ่งๆอยู่ กิมลั้งโทร.เข้ามือถือต๋องด้วยความเป็นห่วง แต่ต๋องยังคิดไม่ตกที่ถูกทั้งลุงชวนชมตำหนิและถูกกิมฮวยด่าจึงยังไม่รับสาย เฝ้าถามตัวเองว่า “นี่เราเห็นแก่ตัวขนาดนั้นจริงๆเหรอ”

แต่ในที่สุดก็ใจอ่อนยอมรับสาย กิมลั้งดีใจถามว่ายอมรับสายตนแล้วหรือ ตอนนี้อยู่ที่ไหน แอบลุ้นให้ต๋องมาอยู่ที่หน้าบ้านอย่างที่เคยทำ แต่แล้วก็ผิดหวังเมื่อต๋องบอกว่าตนเพิ่งกลับถึงบ้าน กิมลั้งเล่าอย่างดีใจว่างานหมั้นวันนี้ล่ม แต่ก็ตัดพ้อว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญโชคช่วยตน แต่กลับไม่ใช่เขา

“ผู้ชายอย่างฉันมันคงไม่มีปัญญาช่วยอะไรเธอได้หรอกกิมลั้ง... ฉันว่าเราพักก่อนดีกว่านะ ตอนนี้สมองฉันล้าเกินกว่าจะพูดเรื่องอะไรแล้วล่ะ”

กิมลั้งวางสายไปงงๆเสียใจลึกๆ กับท่าทีที่เปลี่ยนไปของต๋อง เมื่อกิมลั้งเข้าห้องไปแล้ว ต๋องจึงโผล่จากหลังเสาไฟฟ้าหน้าบ้านด้วยความรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก...

ooooooo

วันนี้กิมแชแต่งตัวสวยเตรียมออกจากบ้าน กิมลั้งถามว่าจะไปไหนก็บอกพี่สาวว่าจะไปทำธุระนิดหน่อย กิมลั้งดูออกเดาได้ว่ากิมแชจะไปไหน

ที่แท้กิมแชแอบไปเยี่ยมจาตุรงค์ที่โรงพยาบาล พอเห็นกิมแช จาตุรงค์ก็ถามถึงกิมลั้ง เธอปดไปว่าเจ้ต้องขายของเลยให้ตนมาเยี่ยม และทำอาหารใส่ปิ่นโตมาให้ด้วย ปะเหลาะให้เขาต้องกินข้าวนี้ให้หมด แล้วลงมือป้อนให้จาตุรงค์กินอย่างเอร็ดอร่อยเพราะคิดว่าเป็นอาหารที่กิมลั้งฝากมาให้จริงๆ

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 4-5 วันที่ 3 ส.ค. 55

ละคร รักเกิดในตลาดสด บทประพันธ์โดย : นราวดี
ละคร รักเกิดในตลาดสด บทโทรทัศน์โดย : สนุกคิด-สนิทเขียน
ละคร รักเกิดในตลาดสด กำกับการแสดงโดย : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละคร รักเกิดในตลาดสด แนวละคร : โรแมนติก คอมเมดี้ เบาสมองตลกสนุกสนาน
ละคร รักเกิดในตลาดสด ผลิต : บริษัท แอ็คอาร์ต เจเนอเรชั่น จำกัด โดยผู้จัด ธัญญา วชิรบรรจง
ละคร รักเกิดในตลาดสด ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-เสาร์ และวันอาทิตย์
หลังข่าวภาคค่ำ 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ออกอากาศต่อจากละครเรื่องธรณีนี่นี้ใครครอง
ละคร รักเกิดในตลาดสด เริ่มออกอากาศ ตอนแรกวันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2555
ที่มา ไทยรัฐ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความละครย่อTVตอนล่าสุด