@. อ่านละครทีวี.@

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 4 วันที่ 2 ส.ค. 55

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 4 วันที่ 2 ส.ค. 55

“เจ้คงไม่ยอมให้ม้าจับคลุมถุงชนกับพี่รงค์ใช่ไหม” กิมแชยุ กิมลั้งไม่ตอบแต่นั่งลงอย่างหนักใจ

ooooooo
ศักดิ์ชายตามณดาไปที่บาร์หรู เห็นเธอนั่งดื่มคนเดียวท่าทางใกล้เมา จึงทำทีเข้าไปทัก แสดงความเป็นห่วง เมื่อเห็นเธอดื่มแก้วแล้วแก้วเล่า จึงขอให้พอและอาสาจะไปส่ง

ณดากำลังเสียใจเรื่องต๋อง ถูกศักดิ์ชายมาวอแว เธอรำคาญตวาดว่าอย่ามายุ่ง เห็นศักดิ์ชายยังไม่ยอมถอย เธอตัดสินใจเอาเงินวางไว้แล้วลุกเดินออกไป เดินไปถึงหน้าบาร์ก็ต้องพุ่งไปอาเจียนที่ริมทาง พอลุกขึ้นอีกทีก็น็อกกลางอากาศเกือบล้มฟาด ดีที่ศักดิ์ชายโผเข้ามาอุ้มไว้ทัน เขาตัดสินใจอุ้มณดาไปที่รถของเธอและขับกลับไปที่คอนโดฯของตัวเอง

ศักดิ์ชายอุ้มณดาขึ้นไปที่ห้องนอน วางไว้บนเตียง มองเธออย่างเสน่หา แต่ก่อนที่จะปล่อยอารมณ์ให้เตลิดไปกว่านั้น เขานึกถึงวันที่ณดาทำแผลที่ถูกตะปูตำเท้าให้อย่างไม่รังเกียจ เห็นความมีน้ำใจของเธอแล้วทำไม่ลง เลยลงไปเรียกแม่บ้านให้ขึ้นมาเช็ดตัวให้ณดา แล้วตัวเขาเองก็ไปนอนอีกห้องหนึ่ง

ooooooo

ที่แผงขายปลาของกิมฮวย ขณะกิมฮวยกับกิมลั้งกำลังช่วยกันจัดปลาอยู่นั้น จาตุรงค์ก็ร้องทักมาแต่ไกล กิมฮวยฉวยโอกาสฝากจาตุรงค์ให้อยู่ช่วยกิมลั้งขายปลา เพราะตนกับเต็กไฮ้จะไปทำธุระกันหน่อย

“ไม่เป็นไร...ม้าให้พี่เขาไปช่วยแม่ที่แผงหมูเถอะ อั๊วอยู่คนเดียวได้”

“ให้อาจาตุรงค์อยู่ที่นี่ล่ะดีแล้วอากิมลั้ง จะได้หัดขายปลา วันข้างหน้าจะได้ช่วยลื้อได้เต็มที่” เต็กไฮ้พูดแล้วหัวเราะชอบใจกับกิมฮวย ส่วนกิมฮวยก็หันไปบอกกิมลั้งว่า

“ต่อไปลื้อก็ต้องไปหัดขายหมูไว้เหมือนกันนะ เพราะอีกไม่ช้าแผงหมูของพวกเราก็ต้องรวมเป็นแผงเดียวกัน ไป...รีบไปกันดีกว่าอาเต็กไฮ้ เดี๋ยวจะสาย”

เลื่อนเข็นรถมาเห็นจาตุรงค์อยู่กับกิมลั้งที่แผงปลาก็มองอย่างไม่สบายใจ หันไปสบตารักเร่ที่มานั่งเฝ้าแผงผักแทนต๋องอย่างรู้กัน แล้วเลื่อนก็ผละจากรถเข็นเดินอ้าวออกไป

ต๋องกำลังนั่งมองสภาพการจัดงานยกธงขาวที่ล้มเหลวไม่เป็นท่าอย่างหงอยเหงา วันนี้แทบไม่มีคนมาเดินในงานเลย

ทันใดนั้น เลื่อนวิ่งหน้าตั้งมาบอกว่ามีเรื่องกวนใจมาบอก ต๋องมองงงๆว่ามีเรื่องอะไรอีก

ที่แผงปลา กิมลั้งนั่งอยู่อย่างอึดอัดใจ เพราะจะทำอะไร จาตุรงค์ก็มาวุ่นวายไปหมด ไม่ว่าจะยกของ จะแบกของ จาตุรงค์ก็เข้ามาแย่งทำ จนกิมลั้งหงุดหงิดยกมือเกาหัว ก็ยังบ้าจะเข้ามาช่วยเกาให้อีก ทำเอากิมลั้งหลบแทบไม่ทัน

“ว่างมากรึไงวะ” เสียงต๋องดังขึ้น จาตุรงค์ชะงัก หันมองตามเสียงเห็นต๋องทำไก๋ดุเลื่อนกับรักเร่ “ถ้าพวกเอ็งว่างก็ไปหาอะไรทำเสียสิวะ”

ต๋องทำไก๋ดุเลื่อนกับรักเร่ แต่จาตุรงค์รู้ว่าต๋องด่ากระทบตน เลยเดินออกไปถามอย่างหาเรื่องว่า

“ทนไม่ได้เหรอที่เห็นฉันมาช่วยงานน้องกิมลั้ง” ต๋องย้อนถามว่า แล้วถามหรือยังว่าเขาอยากให้ช่วยหรือเปล่า จาตุรงค์เลยคุยโวว่า “แกคงไม่รู้สินะว่าอีกไม่ช้าไม่นาน น้องกิมลั้งกับฉันจะเป็นอะไรกัน”

ทั้งคู่โต้เถียงกันรุนแรงขึ้นทุกที จนจาตุรงค์ประกาศว่ากิมลั้งมีเจ้าของแล้ว ไม่พูดเปล่าเอื้อมไปจับมือกิมลั้งแสดงความเป็นเจ้าของด้วย ต๋องกลัวตนจะทนไม่ได้จึงหันเดินออกไป ส่วนกิมลั้งสะบัดมือออกอย่างไม่พอใจ พูดใส่หน้าว่า

“นี่พี่รงค์...ฉันยังไม่ได้เป็นของของใครทั้งนั้นนะ” พูดแล้วเดินหนีไปเลย

ooooooo

ณดารู้สึกตัวในสายวันรุ่งขึ้น เธอตกใจ มองไปรอบห้องก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน

ครู่หนึ่งศักดิ์ชายเดินเข้ามาทักว่าตื่นแล้วหรือ

ณดาถามว่าตนอยู่ที่ไหน

“เมื่อคืนคุณเมาหนักจนหลับไปน่ะครับ ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น ผมไม่รู้จะส่งคุณที่ไหน เลยพามานอนพักที่

คอนโดฯเพื่อนน่ะครับ” พูดพลางวางอาหารลงบนเตียง “ทานอะไรรองท้องหน่อยนะครับ”

ณดาขยับจะลุก จึงรู้ว่าตัวเองเปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่ม เธอโวยวายว่าเขาทำอะไรตน ทีแรกศักดิ์ชายก็ปฏิเสธพยายามจะชี้แจง แต่ณดาตีโพยตีพายไม่เลิก เขาจึงสวมรอยเสียเลย

“สารเลว...ฉันคิดแต่แรกว่าแกต้องเป็นคนแบบนี้” ณดาด่าเสียงสั่นน้ำตาท่วม

“ถึงผมจะเป็นคนแบบไหน แต่ก็ได้เป็นผัวคุณก็แล้วกัน”

“ตีค่าตัวเองสูงไปแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นฉันก็แค่คิดว่า...ให้หมามันกิน!”

“ถ้างั้นผมก็คงเป็นหมาที่โชคดีที่สุด” ศักดิ์ชายพูดยั่วแล้วเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ณดาแผดเสียงขว้างปาข้าวของอย่างบ้าคลั่งอยู่ในห้อง

ศักดิ์ชายลงไปบอกแม่บ้านว่า “รีบเอาเสื้อผ้าไปให้คุณณดาใส่ด้วย เมื่อคืนเช็ดตัวแล้วปล่อยให้เขาล่อนจ้อนอยู่ได้ยังไง” สั่งแล้วเดินออกไปเลย

ooooooo

กิมฮวยกับเต็กไฮ้ไปหาคุณนายสดศรีที่บ้าน ฟ้องว่าต๋องทำให้ชาวตลาดเดือดร้อนไปหมดแล้ว จะเด็ด เสริมทันทีว่า

“ดวงกาลกิณีของไอ้ต๋องมันแรง ขืนคุณนาย ให้มันอยู่ต่อไปก็เหมือนจุดไฟเผาตลาดตัวเองนะครับ”

คุณนายฟังแล้วเครียดจัด ระหว่างนั้นณดากลับมาพอดี เห็นสีหน้าทุกคนตึงเครียด ถามว่าเกิดอะไรขึ้นหรือ ทุกคนหันมองณดา คุณนายกระอักกระอ่วนใจที่ลูกสาวเพิ่งจะกลับมา บอกกิมฮวยกับเต็กไฮ้ว่า

“เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจะจัดการทุกอย่างให้เอง ทุกคนกลับไปก่อนแล้วกันนะ”

พอกิมฮวยออกมา ก็เปรยๆกับทวีที่เดินมาส่งว่า ณดากลับมาในชุดที่ใส่เมื่อวานตนจำได้ ทวีบอกว่า ตั้งแต่เมื่อวานณดาเพิ่งกลับบ้าน กิมฮวยตั้งข้อสังเกตอีกว่า แล้วหายไปไหนทั้งคืน??

“แหม...คงไปเที่ยวตลาดนัดตอนกลางคืน แล้วต่อด้วยตักบาตรล่ะมั้ง” ทวีประชด ทั้งหมดเลยหัวเราะคิกคักอย่างรู้กัน

ส่วนณดาถูกสดศรีคาดคั้นว่าเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง ณดาหน้าเสียบอกว่าตนไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ สดศรีพูดอย่างรับไม่ได้ว่า “คุณนายสดศรีจะเสียชื่อทั้งหมดที่มีมาก็วันนี้แหละ”

ณดาร้องไห้โฮถามว่า คิดว่าตนไม่เสียใจหรือ เมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้วจะให้ทำอย่างไร ให้ฆ่าตัวตายไปพร้อมกับความผิดเลยดีไหม

“อะไรกันณดา...แค่ไม่มีคนเข้าตลาดนี่หนูถึงขนาดจะฆ่าตัวตายเลยหรือ”

ณดาหยุดกึก เพิ่งรู้ว่าตนกับแม่ตีโพยตีพายกัน

คนละเรื่อง แต่ก็ไม่กล้าบอกแม่เรื่องศักดิ์ชาย เลยโมเมกลบเกลื่อนว่า

“ก็...ณดาหมายความว่า...ณดาก็...พยายามทำทุกอย่างที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับตลาดเราแล้ว แต่มันก็เกิดเรื่องที่นึกไม่ถึงจนได้ ณดาก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้วเหมือนกัน”

“แต่แม่รู้!!” สดศรีลุกพรวดขึ้น ณดาเห็นอารมณ์ของแม่แล้วเชื่อว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ รีบลุกตามไป

ooooooo

ต๋องกลับไปที่แผงขายผัก เปิดวิทยุฟังเพลง พอได้ยินเพลงหนักแผ่นดิน ต๋องก็เร่งเสียงหันไปทางแผงขายปลาของกิมลั้งที่จาตุรงค์ยังนั่งเฝ้าอยู่ กิมฮวยเป็นเดือดเป็นแค้นคว้ามีดจะไปไล่ฟันต๋อง

“นายต๋อง...ไปคุยกับฉันหน่อย” เสียงคุณนายสดศรีผู้ทรงอำนาจดังขึ้น กิมฮวยเงื้อมีดค้าง

คุณนายสดศรีเรียกต๋องไปบอกยกเลิกการให้เช่าแผงขายผัก ต๋องพยายามชี้แจงว่าตนจัดงานยกธงขาวด้วยเจตนาดี ณดาก็ท้วงติงแม่ว่า การไม่ให้ต๋องขายผักที่นี่แล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นหรือ ให้โอกาสต๋องอีกสักครั้งได้ไหม

“ณดา...ตลาดนี้ไม่ได้มีต๋องคนเดียวนะ ถ้าเลือกเก็บต๋องไว้ แม่อาจจะต้องเสียคนที่เหลือไป”

“ไม่เป็นไรครับ ไม่ว่าจะอยู่ที่นี่หรือไม่อยู่ ผมก็ต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป” ต๋องลุกขึ้นเดินออกจากตลาดอย่างขมขื่น

กิมฮวยกับพวกจับตาดูอยู่ พอรู้ว่าต๋องถูกไล่ออกจากตลาดก็พากันดีใจ ชวนกันร้องเพลงหนักแผ่นดินเอาคืนต๋อง ส่วนบรรดาแฟนคลับของต๋องอันได้แก่ คิตตี้ ชมพู่ ป้าพิณ เขียวหวาน แม้กระทั่งคำมูลพ่อค้าส้มตำ ต่างพากันสงสารต๋องมาก

ooooooo

เมื่อไม่ได้อยู่ในตลาดแล้ว ต๋องจึงต้องเปลี่ยนที่ซ้อมดนตรีใหม่ เป็นที่ร้านขายของเก่าของลุงหมานกับป้าไหม ที่ต๋องมาซื้อเครื่องดนตรีเก่าบ่อยๆ ลุงกับป้าเวทนาจึงให้ซ้อมดนตรีที่ร้าน

กิมลั้งตามหาต๋องจนเจอเห็นต๋องร้องเพลงอยู่เลยเอามือถือที่กิมแชให้ยืมมาถ่ายคลิปไว้ ต๋องถามว่ารู้ได้ยังไงว่าตนอยู่ที่นี่ กิมลั้งบอกว่ารู้จากเลื่อนกับรักเร่ กิมลั้งถามว่าแล้วเขาจะขายของที่ไหนยังไงต่อไป

“ยังไงฉันก็ไม่ยอมอดตายหรอก เดี๋ยวก็หาทางดิ้นไปให้ได้น่ะแหละ”

กิมลั้งเอื้อมไปจับมือต๋องให้กำลังใจ “ต๋อง...เธอต้องสู้นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”

“ถ้าเธอจับมือฉันไว้ตลอดไปแบบนี้ ฉันสู้ไม่ถอยอยู่แล้ว...” กิมลั้งรู้สึกตัวค่อยๆดึงมือออก ต๋องรู้ว่าเธอกังวลเรื่องอะไร ตัดสินใจบอกเธอว่า “กิมลั้ง ฉันไม่รู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป จะเห็นแก่ตัวเกินไปไหม ถ้าฉันจะบอกเธอตอนนี้เลยว่า ฉัน
ชอบเธอ”

กิมลั้งอึ้งไป ต๋องพูดต่ออย่างบอกความในใจว่า “ฉันก็บอกไม่ถูกเหมือนกันนะว่าชอบอะไรในตัวเธอ รู้อย่างเดียวว่า มีความสุขทุกครั้งที่เห็นเธออยู่ใกล้ๆ แล้วเธอล่ะ รู้สึกเหมือนฉันไหม”

กิมลั้งอึกอัก อ้ำอึ้ง อยากจะพูดแต่เหมือนน้ำท่วมปาก ต๋องบอกว่าตนรู้ว่าระหว่างเรายังมีอุปสรรคอีกมาก แต่มันไม่ผิดใช่ไหมที่เราจะมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน ต๋องอยากให้กิมลั้งพูดความในใจออกมาบ้าง แต่เธอก็ยังพูดไม่ออก

“ฉันรู้ว่าในฐานะลูก เธอต้องลำบากใจ เพราะแม่เธอเกลียดฉันมาก แถมยังจะเตรียมรวบหัวรวบหางเธอให้ไอ้จาตุรงค์นั่น” กิมลั้งเห็นต๋องว้าวุ่น จึงจับแขนเขาปลอบใจ ต๋องกำลังจมอยู่กับอารมณ์ตัวเองเลยไม่รู้สึกตัว ยังคงพูดอย่างอัดอั้นว่า

“แต่ถ้าเธอยังไม่กล้าบอกตัวเองว่ารู้สึกยังไงกับฉัน แล้วทั้งฉันทั้งเธอจะสู้กันต่อไปยังไง”

“แล้วมือฉันที่จับเธอแน่นอยู่นี่มันยังบอกไม่พออีกเหรอว่าฉันรู้สึกกับเธอมากมายแค่ไหน”

ต๋องจึงรู้สึกตัวก้มมองมือกิมลั้ง พูดอย่างตื้นตันว่า “แค่นี้แหละกิมลั้งที่ฉันอยากได้ยิน ฉันจะได้มั่นใจว่าที่ผ่านมาฉันไม่ได้รู้สึกไปคนเดียว” พูดแล้วโผเข้ากอดกิมลั้งไว้เต็มแขน กิมลั้งกอดตอบ เหมือนต่างก็ได้ปลดปล่อยความรู้สึกลึกๆ ที่มีต่อกันมานานออกมา

เมื่อกิมแชได้เห็นคลิปที่กิมลั้งถ่ายต๋องตอนซ้อมดนตรี ชมว่าต๋องร้องเพลงเพราะ กิมลั้งบอกว่าต๋องร้องเพลงดี แต่ไม่มีโอกาสแสดงฝีมือให้ใครเห็น เดี๋ยวตนจะเอาไปลงยูทูบทิ้งไว้เล่นๆ เผื่อจะมีแมวมองมาเจอ

กิมแชแซวพี่สาวว่าเป็นเจ๊ดันตัวจริงเลยนะ กิมลั้ง บอกน้องอย่างตั้งใจจริงว่า

“อั๊วก็แค่รู้สึกว่า คนที่มีความตั้งใจดีอย่างต๋อง...ควรจะมีวันได้รับอะไรดีๆ กลับมาบ้างก่อนที่เขาจะท้อไปกว่านี้”

“ถ้าพี่ต๋องเขารู้ว่าเจ้เป็นห่วงเขาขนาดนี้ เขาคงดีใจ น่าดูเลยนะ”

“อั๊วก็คงทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้หรอกกิมแช” กิมลั้งตอบด้วยสีหน้าเป็นกังวล

ooooooo

การถูกคุณนายยกเลิกการเช่าแผงขายผัก ทำให้ต๋องถูกเต๋าด่าว่าอย่างรุนแรง ขว้างปาของใส่ต๋องระบาย อารมณ์ หาว่าต๋องทำเรื่องจนถูกไล่ออกจากตลาดจนได้ ติ๋มเห็นใจและเข้าใจต๋อง เมื่อห้ามแล้วเต๋าไม่ฟังเลยขู่ว่า ถ้าไม่หยุดทำร้ายต๋องตนจะเดินออกจากบ้านไปเดี๋ยวนี้ เต๋าจึงยอมหยุด แต่ชี้หน้าคาดโทษต๋องว่า

“ยังไงมึงก็ต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีเงินเข้าบ้านเหมือนทุกวัน กูเอาเลือดบ้ามึงออกแน่”

แม้จะถูกเต๋าด่าถูกขว้างปาของใส่อย่างไม่ยอมฟังเหตุผล แต่ต๋องก็ยังมีความสำนึกดี บอกกับตัวเองว่า

“ฉันไม่ยอมให้ใครต้องมาพลอยเดือดร้อนเพราะฉันแน่”

ดังนั้น วันรุ่งขึ้น ต๋องก็สร้างความตื่นเต้นดีใจให้กับบรรดาแฟนคลับที่ตลาดร่วมใจเกื้อ เมื่อเขาขี่ซาเล้งที่ตกแต่งดูสะอาดสวยงามไปขายผักแถวตลาด

ป้าพิณดีใจบอกว่า นึกว่าชาตินี้จะไม่ได้กินผักสวยๆ ถูกๆ จากต๋องอีกแล้ว เลื่อนถึงกับทิ้งรถเข็นวิ่งมา ชมว่า “พี่นี่สุดยอดจริงๆ ว่ะ ไม่เคยจนมุมเลย” รักเร่ก็บอกว่า ดีไม่ดีปั่นซาเล้งขายแบบนี้อาจขายดีกว่าแต่ก่อนอีกด้วยซ้ำ

ระหว่างต๋องขี่ซาเล้งขายผักนั้น มีขอทานชายคนหนึ่งมาขอเงินทำท่าน่าสงสารบอกว่ายังไม่ได้กินข้าวเลย ต๋องบอกว่า ตนก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน แล้วชี้ไปที่หญิงขาพิการคนหนึ่งที่ยืนขายแซนด์วิชอยู่ บอกขอทานชายคนนั้นว่า

“เห็นผู้หญิงคนนั้นไหม เขามีขาเดียวยังไม่เห็นต้องแบมือขอใครกินเลย” ชายขอทานเลยเดินหน้าเซ็งๆออกไป

ครู่หนึ่ง กิมลั้งเดินออกจากตลาดมา ชายขอทานรี่ เข้าไปขอเงิน กิมลั้งควักใบละยี่สิบออกมา ต๋องเห็นเข้ารีบ บอกว่า

“ไม่ต้องให้ ไม่งั้นเธอจะกลายเป็นคนที่สนับสนุนให้เขางอมืองอเท้าทั้งชีวิต”

ขอทานมองหน้าต๋องอย่างไม่พอใจ เดินฮึดฮัดออกไป

กิมลั้งชมว่ารถขายผักของเขาน่ารักที่สุดในโลกเลย ต๋องโอ่ว่าตนต้องทำให้รถมันดึงดูดความสนใจหน่อย ลูกค้าจะได้อยากโบกมือเรียกซื้อ

“ต๋อง...เธอนี่มันฆ่าไม่ตายเลยจริงๆนะ”

“ไม่จริงหรอก แค่เธอไม่สนใจ ฉันก็ตายได้แล้ว” พูดแล้วทำตาปริบๆ น่าสงสาร กิมลั้งหมั่นไส้บอกว่างั้น ต้องลองหน่อย ว่าแล้วทำเมินเดินไป ต๋องรีบไปดักหน้า “อู๊ย...อย่านะ ถ้าเธอทำอย่างนั้น ฉันคงหมดแรงที่จะสู้กับอะไรต่อไปแน่ๆ”

กิมลั้งหยุดมองขำๆแล้วมองตากันอย่างลึกซึ้ง ระหว่างนั้น ศักดิ์ชายผ่านมาเห็นเข้า สมองชั่วๆคิดอะไรออกอีกแล้ว รีบวิ่งออกไปทันที ตรงไปที่แผงขายปลาของกิมฮวย กิมฮวยเลยฝากเฝ้าแผงแป๊บหนึ่ง ตนจะไปเข้าห้องน้ำ บ่นว่าไม่รู้กิมฮวยหายไปไหน เข้าทางศักดิ์ชายพอดี เขาทำเป็นตีหน้าซื่อบอกว่า

“ฉันเห็นคุยกับต๋องอยู่หลังตลาดแน่ะ”

ได้เรื่องทันที กิมฮวยลุกพรวดเดินแทบเป็นวิ่งไปทางหลังตลาด ลืมเรื่องเข้าห้องนํ้าสนิทเลย

ooooooo

ขณะต๋องกับกิมลั้งยังให้กำลังใจกันอยู่นั้น กิมฮวยพรวดเข้าไปด่าและทุบตีกิมลั้งไม่ยั้งมือ ต๋องรีบกอดกิมลั้งเอาตัวรับกำปั้นกิมฮวยแทน กิมฮวยเลยยิ่งกระหนํ่าทุบไม่ยั้ง ไม่ไกลจากตรงนั้น ศักดิ์ชายแอบดูอยู่อย่างสะใจ แต่ที่ข้างหลังเขา ณดาเดินมาดูอย่างสงสัยว่าศักดิ์ชายดูอะไร

เห็นกิมฮวยกำลังมีเรื่องกับต๋องและกิมลั้ง ณดามองอึ้ง หยุดฟัง

ต๋องยอมรับกับกิมฮวยว่าตนผิดเอง ตนเป็นคนมาหากิมลั้ง เมื่อถูกกิมฮวยด่าว่าหน้าด้าน รู้ว่าเกลียด แล้วยังจะมายุ่งกับลูกสาวตนอีก

“น้าเกลียดฉัน ฉันเข้าใจ แต่น้าจะมาบังคับให้กิมลั้งกับฉันเกลียดกันได้ยังไง ในเมื่อเราชอบกัน”

“ชอบกัน?!” กิมฮวยแผดเสียงลั่น “ไอ้ต๋อง...ลื้อไม่มีสิทธิ์พูดคำนี้ ผู้ชายคนเดียวที่ลูกสาวอั๊วจะชอบได้ก็คืออาจาตุรงค์” แล้วหันสั่งกิมลั้ง “คนที่ลื้อจะเลือกได้มีแต่อาจาตุรงค์เท่านั้น เข้าใจไหมอากิมลั้ง”

กิมลั้งถามว่าตนไม่ได้ชอบเขาจะให้เลือกได้ยังไง กิมฮวยยื่นคำขาดว่าให้เลือกเอาระหว่างตนกับต๋อง แล้วหันขวับบอกต๋องว่าถ้าจะชอบกิมลั้งก็ต้องข้ามศพตนไปก่อน พูดแล้วกระชากแขนกิมลั้งลากไปเลย

“ไอ้ต๋อง แกไม่มีทางได้กลับเข้ามาอยู่ที่นี่ง่ายๆ หรอก” ศักดิ์ชายมองตามยิ้มอย่างสะใจ

ฝ่ายณดา เห็นกิมฮวยลากกิมลั้งไปแล้ว ก็แกล้งตะโกนเรียกเหมือนเพิ่งเห็นต๋อง ศักดิ์ชายเห็นณดาเดินไปหาต๋องก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที

ณดาดีใจมากที่ได้พบต๋องอีก บอกต๋องว่าตนจะพาเขากลับมาที่ตลาดนี้อีกครั้งให้ได้ ต๋องบอกว่าถ้าจะกลับ ตนก็อยากกลับอย่างภาคภูมิใจ และมุ่งมั่นที่จะเรียกชื่อเสียงของตลาดกลับมาให้ได้เพื่อชดเชยความผิดพลาดทั้งหมด

“เอาเป็นว่า ณดาจะคอยเป็นกำลังใจ แล้วก็รอคุณกลับมาที่นี่อย่างสมศักดิ์ศรีนะคะ” เธอเอื้อมไปจับมือต๋องบีบเบาๆ ยิ่งทำให้ศักดิ์ชายที่กำลังหงุดหงิด ฮึดฮัดขึ้นมา

ooooooo

แม้ว่าศักดิ์ชายจะสวมรอยทำให้ณดาคิดว่าตัวเองตกเป็นของเขาแล้ว แต่ลึกๆ แล้วศักดิ์ชายก็ไม่กล้ารุกเธอต่อเพราะมันไม่เป็นความจริง รัศมียุลูกชายว่า

“ลูกลืมไปแล้วหรือว่านี่มันเป็นยุคของคลิปหลุด นี่ต่างหากที่จะทำให้เหยื่อของเรา อึ้ง ทึ่ง เสียว” ศักดิ์ชายถามว่าแล้วตนจะไปเอาคลิปที่ไหนในเมื่อตนไม่ได้ทำอะไรณดาจริงๆ “คลิปจะมีไม่มีน่ะไม่สำคัญเท่ากับการทำให้เขาเชื่อว่ามันมี เข้าใจไหมลูก”

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 4 วันที่ 2 ส.ค. 55

ละคร รักเกิดในตลาดสด บทประพันธ์โดย : นราวดี
ละคร รักเกิดในตลาดสด บทโทรทัศน์โดย : สนุกคิด-สนิทเขียน
ละคร รักเกิดในตลาดสด กำกับการแสดงโดย : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละคร รักเกิดในตลาดสด แนวละคร : โรแมนติก คอมเมดี้ เบาสมองตลกสนุกสนาน
ละคร รักเกิดในตลาดสด ผลิต : บริษัท แอ็คอาร์ต เจเนอเรชั่น จำกัด โดยผู้จัด ธัญญา วชิรบรรจง
ละคร รักเกิดในตลาดสด ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-เสาร์ และวันอาทิตย์
หลังข่าวภาคค่ำ 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ออกอากาศต่อจากละครเรื่องธรณีนี่นี้ใครครอง
ละคร รักเกิดในตลาดสด เริ่มออกอากาศ ตอนแรกวันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2555
ที่มา ไทยรัฐ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความละครย่อTVตอนล่าสุด